จีน จนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์และส่งแพทย์เข้าไปในพื้นที่ระบาดไวรัสโคโรนา

          สำนักงานการบินพลเรือนจีน (CAAC) เปิดเผยว่า จีนได้ขนส่งอุปกรณ์ฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มีเที่ยวบินที่ขนส่งอุปกรณ์ฉุกเฉินทั้งหมด 4,330 เที่ยว ขนส่งสิ่งของมากกว่า 604,000 รายการ รวมถึง หน้ากาก เสื้อผ้าป้องกันทางการแพทย์ และยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาด เที่ยวบินจำนวน 138 เที่ยวเดินทางไปที่มณฑลหูเป่ย เพื่อส่งมอบอุปกรณ์ฉุกเฉินมากกว่า 192,000 รายการ มีน้ำหนักรวมประมาณ 1,213 ตัน เจ้าหน้าที่ CAAC ได้ประสานงานกับสายการบินต่างๆ เพื่อส่งบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 7,558 คน ไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส และนำผู้โดยสารจำนวน 399 คนจากต่างประเทศเดินทางกลับบ้านด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ

ผู้นำจีน เลื่อนเยือนญี่ปุ่นติดตามสถานการณ์โคโรนา

          ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน อาจต้องเลื่อนการเดินทางไปญี่ปุ่น ในเดือนเม.ย. ที่ตามกำหนดจะพบหารือกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ที่พระราชวังอิมพีเรียล การเลื่อนการเดินทาง เนื่องจากผู้นำจีน ต้องติดตามสถานการณ์เชื้อไวรัส และมีการเลื่อนการประชุมระดับผู้อำนวยการของกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานอื่นๆของรัฐบาลทั้งสองฝ่ายในเดือนนี้ออกไปแล้ว ซึ่งการประชุมในระดับผู้อำนวยการมีเป้าหมายเพื่อปูทางไปสู่การเจรจาระดับรัฐมนตรีช่วยที่จะจัดขึ้นที่กรุงโตเกียวในช่วงสิ้นเดือนนี้เพื่อร่างรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางของผู้นำจีน

เวียดนาม กักตัวพลเมือง 950 คนที่เดินทางกลับจากจีน

          วอยซ์ ออฟ เวียดนาม เรดิโอ รายงานว่า ชาวเวียดนามจำนวน 950 คน จะถูกแยกตัวไปที่ค่ายทหาร 2 แห่ง นอกกรุงฮานอยเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน หลังจากเดินทางมาถึงสนามบินโหน่ยบ่าย กรุงฮานอย และสนามบินวังดุ่ง จังหวัดกว๋างนิญ รายงานอ้างการเปิดเผยของหัวหน้าแพทย์ทหารที่ระบุว่า ในช่วงเวลากักตัว หากใครก็ตามที่มีอาการไข้ จะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเวียดนาม ออกแถลงการณ์ขอให้ระงับการค้าขายข้ามพรมแดนระหว่างเวียดนามและจีน ยกเลิกเที่ยวบินไปและกลับจากจีน กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นอีก 1 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสในเวียดนามมีจำนวน 9 คน 

ชาวสิงค์โปร์ ติดเชื้อจากคนสู่คนเพิ่มอีก

          กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ แถลงว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสสะสมในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 24 คน เนื่องจากมีการยืนยันผู้ป่วยใหม่ 6 คน  ในจำนวนดังกล่าวเป็นชาวสิงคโปร์ 4 คน ซึ่งไม่มีประวัติเดินทางไปที่เมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ในภาคกลางของจีน ผู้ป่วยชาวสิงคโปร์ทั้ง 4 คน มีความเชื่อมโยงกัน  1 คนเป็นมัคคุเทศก์ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ขณะที่ 2 คนเป็นพนักงานของร้านกาแฟซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แวะพัก และคนสุดท้ายเป็นแม่บ้านให้กับผู้ป่วย 1 ใน 3 คน ข้างต้น  เมื่อวันที่ 22 ม.ค.กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางจากจีนมาที่สิงคโปร์ แล้วข้ามพรมแดนไปพักในมาเลเซียระหว่างวันที่ 24 ม.ค.ถึง 26 ม.ค. แล้วจึงกลับมาที่สิงคโปร์อีกครั้งเพื่อเดินทางกลับประเทศ โดยใช้บริการอาคารผู้โดยสารหมายเลข 1 ของท่าอากาศยานนานาชาติชางงี

จีน ไม่พร้อมต้อนรับนายกฯกัมพูชา ที่จะเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น

          ตามที่ สมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา ต้องการเดินทางจากเกาหลีใต้ ที่อยู่ระหว่างการประชุมสันติภาพโลกไปที่จีน เพื่อเยี่ยมนักศึกษากัมพูชาในเมืองอู่ฮั่น หลังจากที่ถูกโจมตีว่าไม่ได้ให้ความสำคัญและไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของนักศึกษาที่ติดค้างในเมืองดังกล่าว ก่อนหน้านี้ สมเด็จฮุนเซน เรียกร้องไม่ให้นักศึกษากัมพูชาในจีนกลับประเทศ โดยให้เหตุผลว่าจีนมีการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ดีกว่ากัมพูชา ล่าสุด ทางการจีน ปฏิเสธแผนของสมเด็จฮุนเซน ที่ต้องการเดินทางไปที่เมืองอู่ฮั่น โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองอู่ฮั่นต่างมีภารกิจในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส จึงไม่สามารถอำนวยความสะดวกในการต้อนรับผู้นำกัมพูชาได้ หลังจากทราบว่าทางการจีนไม่พร้อมให้เข้าประเทศในช่วงนี้ สมเด็จฮุนเซน กล่าวว่า เขาจะเดินทางกลับกัมพูชา

ชาวไต้หวัน 56 รายเสียชีวิตจากไข้หวัดหมู

          หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของไต้หวัน (CDC) เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัส H1N1 หรือไข้หวัดหมู จำนวน 56 รายในไต้หวันในช่วง 3 เดือน มีผู้ติดเชื้อ 771 คนซึ่งมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2562 จำนวนผู้เสียชีวิตร้อยละ 41 เป็นผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ขณะที่ร้อยละ 32 มีอายุ 50-64 ปี เจ้าหน้าที่เรียกร้องให้ชาวไต้หวันเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัด เนื่องจาก ผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 43 ราย จากอาการแทรกซ้อนของโรคหวัดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน

พบไข้หวัดนกระบาดในซาอุฯ-เวียดนาม

          องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) เปิดเผยว่า ซาอุดิอาระเบีย รายงานการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N8 ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในภูมิภาคซูแดร์ทางตอนกลางของประเทศ OIE ระบุว่า การแพร่ระบาดครั้งนี้ทำให้นกตายจำนวน 22,700 ตัว และทำให้มีการฆ่ากำจัดนกที่เหลืออีก 385,300 ตัว ในฟาร์มดังกล่าว เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการแพร่ระบาดครั้งแรกของไวรัสสายพันธุ์ H5N8 ในซาอุดิอาระเบียนับตั้งแต่เดือนก.ค.2561

          ขณะที่ OIE เปิดเผยว่า เวียดนามรายงานการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N6 ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศ OIE ระบุว่า การแพร่ระบาดครั้งนี้ทำให้นกล้มตายจำนวน 2,200 ตัว จากจำนวนนกทั้งหมด 3,000 ตัวในหมู่บ้านดังกล่าว

สหรัฐฯ คาดไวรัสโคโรนา ส่งผลกระทบต่อการทำการค้ากับจีน

          นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว สหรัฐฯ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มีผลกระทบต่อตัวเลขการส่งออกของสหรัฐฯที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน  เป็นความจริงที่ว่า การส่งออกที่จะเกิดจากการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก จะล่าช้าออกไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสในจีน  อย่างไรก็ดี นายคุดโลว์ คาดการณ์ว่า สหรัฐฯจะได้รับผลกระทบไม่มากนักจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

‘ทรัมป์’ จะพูดถึงผลงานด้านศก.- ปกป้องตัวเองจากการถูกถอดถอน ในการแถลงนโยบายประจำปี

           ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรส ตามคำเชิญของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ คืนนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย ในหัวข้อ`The Great American Comeback` โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ คาดว่า นายทรัมป์ จะเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงความสำเร็จ และผลงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว ในเรื่องการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ การทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน รวมทั้งข้อตกลงการค้า USMCA กับเม็กซิโกและแคนาดา พร้อมกับกล่าวถึงสิ่งที่เขาจะดำเนินการต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือของการดำรงตำแหน่งในปีนี้ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพ.ย.

          นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่านายทรัมป์จะใช้โอกาสในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ กล่าวปกป้องตัวเขาจากคดีถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ก่อนที่วุฒิสภา จะลงมติต่อญัตติถอดถอนนายทรัมป์ ออกจากตำแหน่งในวันพรุ่งนี้ เวลา 16.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือเช้าวันพฤหัสบดี เวลา 04.00 น.ตามเวลาไทย คาดว่า วุฒิสภาจะลงมติคัดค้านการถอดถอนนายทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ขณะที่การลงมติจำเป็นต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของวุฒิสมาชิกจำนวน 100 คน ส่งผลให้พรรคเดโมแครตมีแนวโน้มพ่ายแพ้ในความพยายามถอดถอนนายทรัมป์ออกจากตำแหน่ง

CR:CNN