+++สถานการณ์การประท้วงในเมืองเฟอร์กูสันรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐฯ ลุกลามทั่วสหรัฐฯรวมทั้งในรัฐนิวยอร์กและรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ ทหารกองกำลังป้องกันชาติกว่า2,000นายถูกส่งเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยในเมืองเฟอร์กูสัน แถบชานเขตเซนต์หลุยส์ในรัฐมิสซูรีเพื่อสกัดกั้นการก่อจลาจลและปล้นสะดมภ์ในคืนที่สอง หลังจากคณะลูกขุนใหญ่ตัดสินใจไม่ฟ้องเจ้าหน้าที่ดาร์เรนวิลสัน ตำรวจผิวขาวที่ยิงนายไมเคิลบราวน์ วัยรุ่นผิวสีไร้อาวุธอายุ18 ปีเสียชีวิต เมื่อเดือนส.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้กลุ่มผู้ประท้วงออกไปจากถนนหลายสายของเมืองเฟอร์กูสัน หลังมีการชุมนุมอย่างสงบครั้งใหญ่เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยผู้ประท้วงปักหลักชุมนุมที่บริเวณด้านนอกของสำนักงานตำรวจเมืองเฟอร์กูสันเมื่อวันอังคารเป็นคืนที่สอง และมีการจับกุมผู้ประท้วงไป61 คน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประณามกลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อเหตุรุนแรง และขอให้ยอมรับคำตัดสิน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาการเดินทางไปเมืองเฟอร์กูสันของประธานาธิบดีโอบามาหรือไม่ แต่ยังจะไม่มีขึ้นในสัปดาห์นี้เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐ
+++ส่วนที่ฮ่องกง ตำรวจซึ่งได้รับกำลังหนุนจากคนงานเข้ารื้อเต็นท์และสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ออกจากถนนนาธาน หลังจากที่สามารถผลักดันผู้ประท้วงออกไป ถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญที่สุดจนถึงขณะนี้ในความพยายามรื้อถอนพื้นที่ประท้วง 3 จุดใหญ่ ขณะที่กระแสสนับสนุนจากสาธารณชนที่มีต่อการปักหลักประท้วงเริ่มซาลง เหลือผู้ประท้วงน้อยมากที่ยังคงอยู่บริเวณรอบนอกของถนนนาธาน และมีข่าวว่าแกนนำนักศึกษา 2 คนรวมถึงนายโจชัว หว่อง ถูกจับกุมด้วย
+++ผู้นำประเทศในเอเชียใต้ ร่วมประชุมสุดยอดความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียใต้ครั้งที่ 18 ที่กรุงกาฐมาณฑุของเนปาล ผู้นำอัฟกานิสถาน บังกลาเทศ อินเดีย มัลดีฟส์ เนปาล ปากีสถาน และศรีลังกา ร่วมประชุม ซึ่งมีขึ้นเป็นเวลา 2 วันอย่างพร้อมเพรียง ในระหว่างพิธีเปิด นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ได้ใช้โอกาสนี้รำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์โจมตีโรงแรมทัชมาฮัลในนครมุมไบ ซึ่งตรงกับเมื่อวานนี้ เมื่อ 6 ปีก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 166 ศพ และบาดเจ็บอีก 300คน ผู้นำอินเดียเรียกร้องให้ร่วมกันปราบปรามการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ
+++นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียจะออกกฏหมายต่อต้านการก่อการร้ายฉบับใหม่ในเร็วๆนี้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงจากแนวร่วมกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส) นอกจากนี้ นายนาจิบกล่าวในสภาว่า รัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดในกฎหมายด้านความมั่นคงที่มีอยู่เดิม ขณะทางการแสดงความกังวลต่อชาวมาเลย์ที่ไปเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธไอเอสในซีเรียและอิรัก ซึ่งจะกลับมาขยายเครือข่ายในประเทศและอาจก่อเหตุรุนแรง
+++ขณะที่นายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ของปากีสถาน ขอให้ร่วมกันต่อสู้กับความยากจน การไม่รู้หนังสือ โรคภัยไข้เจ็บ ภาวะทุพโภชนาการและการว่างงาน แทนที่จะหันมาต่อสู้กันเอง ซึ่งสอดคล้องกับประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถาน ที่ต้องการให้เปลี่ยนจากการเผชิญหน้า มาเป็นความร่วมมือให้เกิดสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค
+++ซีเรียอ็อบเซิร์พเวทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรท์ส กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่มีสำนักงานอยู่ในอังกฤษ ระบุว่า กองกำลังทหารรัฐบาลซีเรียส่งเครื่องบินรบหลายลำปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองรัคกา เมืองเอกของกลุ่มติดอาวุธไอเอสทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า95 ศพ บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 120คน ชาวซีเรีย ประมาณ 12.2ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือเพราะสถานการณ์ความรุนแรงขยายตัวมากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจหดตัวร้อยละ40นับตั้งแต่ปี 2554 ประชากร 3ใน 4 มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากจน นักเรียนต้องหยุดเรียนถึงร้อยละ50 ประชาชน7.6 ล้านคนไร้ที่อยู่ ส่วนอีก 3.2ล้านคนหนีไปอยู่ประเทศอื่น
+++นายเนียน วิน โฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของประเทศเมียนมาร์ กล่าวว่า พรรคฯคาดว่าจะมีการหารือของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งห้ามไม่ให้ผู้นำพรรคฝ่ายค้านเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเฉพาะในประเด็นที่นางซูจี มีคู่สมรสและบุตรสัญชาติอังกฤษ เขาระบุคร่าวๆว่าการประชุมอาจจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ แต่พรรคฯยังต้องรอการแจ้งกำหนดการประชุมที่ชัดเจนจากรัฐบาล การประชุมสุดยอดครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่สองและเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่สุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมียนมาร์นับตั้งแต่สิ้นสุดยุคการปกครองของกองทัพฯ ก่อนการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนปีหน้า
+++ส่วนสภาพอากาศที่สหรัฐฯ เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกยกเลิกหรือไม่ก็ประสบปัญหาเดินทางล่าช้า หลังพายุฤดูหนาวลูกหนึ่งพัดพาเอาฝนเยือกแข็งและหิมะซัดถล่มก่อนหน้าเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่มีการจราจรคับคั่งที่สุดในรอบปี สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ เปิดเผยว่า สภาพอากาศเลวร้ายที่ผสมปนเประหว่างฝนเยือกแข็งและหิมะ ปกคลุมบอสตัน ฟิลาเดลเฟีย นิวยอร์กและวอชิงตัน ซึ่งจะทำให้การเดินทางของประชาชนลำบากมากขึ้นไล่ตั้งแต่นอร์ทแคโรไลนา เซาท์แคโรไลนา ไปจนถึงนิวอิงแอนด์
+++ภูเขาไฟขนาดใหญ่ "อาโสะ" บนเกาะคิวชู ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เกิดการปะทุพ่นควันเถ้าถ่านตั้งแต่วันอังคาร ปลิวกระจายฟุ้งสู่ท้องฟ้าสูงประมาณ 1,000 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา ต้องจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประกาศเตือน สะเก็ดหินและเถ้าถ่านอาจตกหล่นลงในระยะรัศมี 1 กิโลเมตร รอบฐานภูเขา
+++ทางการจีน ออกร่างกฎหมายต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว และปรับปรุงระเบียบข้อบังคับในการออกคำสั่งควบคุม หรือคำสั่งห้ามเข้าใกล้ โดยระบุให้ศาลต้องออกคำสั่งควบคุมให้แก่เหยื่อผู้ร้องขอภายใน 48 ชั่วโมง จากนั้นเหยื่อต้องยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลภายใน 30 วันแม้ร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีจุดอ่อนหลายแห่ง รวมถึงการไม่ให้ความคุ้มครองแก่คู่สมรสนอกกฎหมายและคู่สมรสที่หย่าร้างไปแล้ว แต่ก็นับเป็นความก้าวหน้าที่ดี โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2544 เคยมีการแก้ไขกฎหมายการสมรสเพื่อห้ามไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงในครอบครัว นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ต้องกระตือรือร้นและใส่ใจต่อรายงานการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้น อีกทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจได้รับบทลงโทษรุนแรง หากพบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าวแล้วไม่แจ้งเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ ปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัวไม่ได้รับความใส่ใจเท่าที่ควร โดยเจ้าหน้าที่มักหลีกเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ถูกมองว่าเป็นเรื่องภายใน เว้นแต่ว่าจะเกิดการบาดเจ็บร้ายแรง ขณะที่ความช่วยเหลือของรัฐก็ยังไม่เพียงพอ
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อย แต่ก็ยังทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกรอบ ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผสมผสาน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 12.69 จุด ปิดที่ 17,827.63 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.80 จุด ปิดที่ 2,072.83 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 29.07 จุด ปิดที่ 4,787.32 จุด
+++ราคาน้ำมันสหรัฐฯ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีครั้งใหม่ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 73.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2010 ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 77.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ราคาทองคำ ขยับลงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง หลังตลอดทั้งเดือน ทองคำดีดขึ้นพอสมควร ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 1,196.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์