โจรชิงเงินธ.กรุงเทพ รับสารภาพก่อเหตุเพราะต้องการนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว

          เมื่อวันที่ 22 มกราคม มีเหตุคนร้าย 2 คนร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัสประชาอุทิศ 58 เขตทุ่งครุ ได้เงินสดไปมากกว่า 8 แสนบาท เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายทั้ง 2 คนคือนายชัยวัฒน์ มีชะคะ อายุ 32 ปี และ น.ส.ผกามาศ ประดับวงศ์ อายุ 29 ปี ได้ที่ซอยท่าเรือแดง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสด 401,000 บาท ปืนพกสั้นขนาด .38 จํานวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนชนิดเดียวกัน 4 นัด รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ทสีแดง รถจักรยานยนต์ฟีโน่สีดำ ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน          วันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง ภายในธนาคารกรุงเทพ จากนั้นพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นายชัยวัฒน์เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ส่วน น.ส.ผกามาศ เป็นคนขับรถยนต์มาส่งคนร้ายและพาหลบหนี จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนนําไปสู่การออกหมายจับ ซึ่งทั้ง 2 คน ยอมรับว่าเป็นแฟนกัน มีความคุ้นเคยกับที่เกิดเหตุ และเคยมาดูลาดเลาเพื่อวางแผนก่อเหตุชิงเงิน โดยนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัว มีการนำไปซื้อทองรูปพรรณบางส่วน          ส่วนในเรื่องเส้นทางการหลบหนีหลังก่อเหตุ มีการนํารถจักรยานยนต์ เสื้อผ้า หมวกกันน็อก และปืนที่ใช้ก่อเหตุ ไปทิ้งไว้ที่คูน้ำข้างทางภายในซอยโปร่งอารมณ์ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน แล้วหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปกบดานย่านนิมิตรใหม่ และนำเงินที่ได้บางส่วนไปฝากไว้กับพ่อแม่

          เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา ซึ่งต้องตรวจสอบขยายผลต่อไปว่ามีมูลเหตุจูงใจอื่นใดหรือไม่ เนื่องจากการตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่านายชัยวัฒน์ มีคดีโทรมหญิงตั้งแต่ปี 2547 และขับรถขณะเมาสุรา ทั้งยังมีคดีครอบครองยาบ้า เมื่อปี 2552 ส่วน น.ส.ผกามาศ มีหมายจับข้อหารับของโจร และความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ซึ่งได้หลบหนีหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ตั้งแต่ปี 2560 สำหรับคดีนี้ ตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ผ้าคลุมศีรษะและใบหน้าเพื่อไม่ให้เห็นหรือจําหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลอาญาธนบุรี

....