รายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวในมาเก๊าลดลง11.3% ฮ่องกง พนักงานโรงแรม 40% อาจถูกเลิกจ้าง

          นายเชียง เวงชอน รัฐมนตรีด้านบริหารและยุติธรรมของมาเก๊า เขตปกครองพิเศษของจีน เปิดเผยว่า มาเก๊า มีรายได้ส่วนใหญ่จากการท่องเที่ยวและธุรกิจบ่อนพนัน โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน ช่วงนี้มีการระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทำให้รายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวของมาเก๊าเมื่อเดือนม.ค.แหล่งบ่อนพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลดลงร้อยละ 11.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาเก๊าพบผู้ติดเชื้อไวรัส 8 คน รัฐบาลมาเก๊า ได้ประกาศมาตรการเชิงรุกเพื่อสกัดเชื้อไวรัส รวมทั้งไม่อนุญาตให้ชาวจีนจากมณฑลหูเป่ย แหล่งแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เข้าเมือง ถ้าหากไม่มีหนังสือรับรองจากแพทย์ว่าสุขภาพแข็งแรง

          เมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคนไปเที่ยวที่มาเก๊า แต่ขณะนี้นักท่องเที่ยวลดลงมาก ทำให้มาเก๊าแทบจะเป็นเหมือนเมืองร้าง ไม่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเข้าไปเล่นพนันในมาเก๊า นอกจากนี้ ทุกคนในบ่อนพนัน ทั้งพนักงานเก็บเงิน พนักงานต้อนรับและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อไวรัสและมีจำนวนมากกว่านักเล่นพนัน

          ส่วนที่ฮ่องกง พบผู้ติดเชื้อไวรัส 12 คน นายเอ็ดวิน ลอง ซุยฮุง เจ้าของบริษัทไท ฮุง ไฟ เอ็นเตอร์เพรซ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมรายใหญ่ของฮ่องกง เปิดเผยว่า พนักงานโรงแรม 4 ใน 10 คน หรือร้อยละ 40 ของพนักงานโรงแรมทั้งหมด 44,500 คนในฮ่องกง อาจจะถูกเลิกจ้าง มาตรการของภาครัฐเรื่องการจำกัดการเดินทางเพื่อสกัดเชื้อไวรัสเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ธุรกิจโรงแรมฮ่องกงต้องปรับแผนธุรกิจครั้งใหญ่ รวมทั้งเลิกจ้างแรงงานเพื่อลดรายจ่าย ก่อนหน้านี้ ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมของฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการประท้วงรัฐบาลที่ยืดเยื้อ 8 เดือน

CR:CNN