สธ.รอสรุปสถานที่รับคนไทยจากอู่ฮั่นในการประชุมกับนายกรัฐมนตรีบ่ายนี้

          การรับ 160 คนไทยในเมืองอู่ฮั่นกลับประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานเวชภัณฑ์ให้แก่ชาวจีนที่กำลังขาดแคลน ซึ่งสิ่งของพระราชทานจะเดินทางไปพร้อมกับทีมแพทย์ของไทยที่จะบินไปรับคนไทยในวันพรุ่งนี้ โดยจะมีผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูรเป็นหัวหน้าทีมไปรับพร้อมทีมแพทย์ 3 ทีม ประกอบด้วย แพทย์ฉุกเฉิน, แพทย์ด้านโรคระบาด และจิตแพทย์ มั่นใจว่าทุกคนที่กลับมาจะไม่มีปัญหาด้านสุขภาพหรือการติดเชื้อ เพราะก่อนขึ้นเครื่องจีนจะตรวจว่ามีไข้หรือไม่ ส่วนตัวไม่ได้เดินทางไปด้วย เพราะเมื่อกลับมาจะทำงานไม่ได้ เนื่องจากทุกคนที่กลับมาต้องถูกกักกันตัวไว้ 14 วันเพื่อตรวจสอบอาการเช่นเดียวกับ 160 คนไทย เมื่อกลับมาเครื่องบินจะลงใกล้กับสถานที่กักกันตัวที่จะไม่เปิดเผยว่าเป็นที่ใด แต่มีหลักว่าต้องเป็นสถานที่โล่งและมีอากาศบริสุทธิ์ เพื่อไม่ให้ทุกคนเครียด ตอนนี้เตรียมไว้ 2-3 ที่ และมีสถานที่อยู่ในใจแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะจะหารือกับนายกรัฐมนตรีบ่ายนี้ก่อน ระหว่างกักกันจะห้ามญาติเยี่ยมจนกว่าจะพ้นระยะฟักตัวของโรค โดยหากไม่มีใครป่วยก็จะให้ทุกคนอยู่รวมกัน พร้อมขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทุกคนที่กลับมาจะไม่มีใครแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างแน่นอน

          ด้านทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารโรงพยาบาลราชวิถี ร่วมการชี้แจงกรณีทีมแพทย์โรงพยาบาลราชวิถีประกาศความสำเร็จในการนำยาต้านโรคเอดส์มารักษาผู้ป่วยชาวจีนจนหายดี ว่าเป็นการรักษาตามอาการ หลังแพทย์พบว่าผู้ป่วยรายนี้มีการติดเชื้อที่คล้ายกับอาการหนึ่งของโรคเอดส์ ยืนยันว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีแนวทางการรักษาที่เป็นมาตรฐาน ต้องรักษาไปตามอาการ โดยกลไกบางอย่างของเชื้อไวรัสโคโรนา กับไวรัสเอชไอวีมีความคล้ายกัน แต่ยาต้านโรคเอดส์เป็นยาที่ผลข้างเคียง และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยผู้ป่วยทั้ง 2 รายที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลราชวิถีมีอาการดีขึ้นแล้วทั้งคู่

          นายอนุทิน กล่าวว่า ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้ป่วยที่เสียชีวิตส่วนใหญ่คือผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว และทำให้เสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อน

          ส่วนสถานการณ์ไวรัสโคโรนาในไทย ตอนนี้ผู้ติดเชื้อยังเท่าเดิมคือ 19 คน กลับบ้านได้แล้ว 8 คน ส่วนที่เหลือ 11 คนยังอยู่โรงพยาบาล แต่ทั้งหมดอาการดีขึ้นแล้ว

....