*กมธ.สื่อ เสนอตั้งองค์กรสภาวิชาชีพ มีมาตรการและบทลงโทษทางกฎหมายหากพบมีความผิด*

นางเตือนใจ สินธุวณิก โฆษกคณะกรรมาธิการฯ เปิดเผยผลการรับฟังความเห็นเบื้องต้นว่า สื่อในปัจจุบันมีมากขึ้นทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อกระแสรอง รวมทั้งการทำงานของสื่อก็เปลี่ยนไปมีผลประโยชน์ทางธุรกิจเข้ามามากขึ้น และจรรยาบรรณวิชาชีพลดลง จึงเห็นว่าควรมีมาตรการลดผลประโยชน์ทางธุรกิจ และสร้างจรรยาบรรณสื่อมากขึ้น ขณะเดียวกัน สื่อต้องรักษาเสรีภาพพร้อมกับต้องทำงานอย่างมีคุณภาพและไม่ละเมิดขอบเขตสิทธิประชาชน เนื่องจาก ปัจจุบันการที่สื่อมีการควบคุมกันเองผ่านสภาวิชาชีพ พบว่ายังไม่มีประสิทธิภาพและการควบคุมที่มากพอ จึงมีแนวคิดเสนอให้จัดตั้งองค์กรสภาวิชาชีพใหญ่ที่จะรวมสื่อทุกแขนงไว้ รวมทั้งต้องมีมาตรการควบคุมที่เคร่งครัดและมีบทลงโทษทางกฎหมาย หากมีการกระทำผิด ขณะที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช. ในฐานะองค์กรอิสระที่คอยควบคุมสื่อและจัดสรรคลื่นความถี่ ก็ควรปรับปรุงหน้าที่ในการทำงานด้านพัฒนาและส่งเสริมสื่อให้มากขึ้น  ส่วนการแทรกแซงสื่อควรมีกฎหมายป้องกัน และมีองค์กรจากภาคประชาชนเเละสื่อเข้าร่วมป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดการแทรกแซง อย่างไรก็ดี ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้จะมีการหารือกับคณะกรรมาธิการฯเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง และหลังจากนี้คณะกรรมาธิการฯจะรับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการสื่อสารมวลชน บุคลากรสื่อมวลชน และภาคประชาชนเพื่อระดมความเห็นเพิ่มเติม โดยการปฎิรูปสื่อนี้เป็นการมุ่งเน้นเพื่อเสนอแนวทางและบทบาทการทำงานของสื่อภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 97และ 103 จะไม่มีการนำมาหารือ เพราะเป็นการทำงานของผู้บริหารประเทศ

ธีรวัฒน์