สกัดโคโรนา ปลัดกทม.นำจิตอาสาทำความสะอาด สกายวอล์คแยกปทุมวัน-สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ชิดลม

          ปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา ที่สามารถติดต่อได้จากการสัมผัส นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ประชาชนจิตอาสากว่า1,000คน ร่วมกันเช็ดทำความสะอาด เก็บขยะ บริเวณทางเดินสกายวอล์คจากแยกปทุมวันไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ชิดลม  เพราะเป็นสถานที่สาธารณะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสัญจรไปมาจำนวนมาก ต้องสัมผัสกับสิ่งของที่อยู่บริเวณนี้ทั้งราวบันได เก้าอี้ กระจก อาจทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวได้ พร้อมแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือให้ได้ใช้ เพื่อป้องกันตัวเองด้วย

           นางศิลปสวย กล่าวว่า กรุงเทพมหานครตระหนักถึงการระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา และห่วงใยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะชุมชนและสถานที่สาธารณะ วันนี้จึงได้เริ่มต้นจัดกิจกรรมทำความสะอาดจุดนี้ขึ้นมาและเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนหันมาดูแลตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือสม่ำเสมอ พยายามไม่สัมผัสสิ่งของตามสถานที่สาธารณะ กินร้อนช้อนกลาง โดยจะขยายการทำความสะอาดไปยังจุดอื่นที่มีคนพลุกพล่านด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แนะนำข้อควรปฏิบัติให้กับสถานประกอบการโรงแรมคอนโดกว่า 922 แห่งและจัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ตามโรงเรียนต่างๆ ให้ความรู้นักเรียนแล้ว แต่หลังจากนี้จะเชิญผู้นำสหกรณ์มาพูดคุยถึงข้อปฏิบัติของคนขับแท็กซี่ เนื่องจากเป็นอาชีพที่ต้องรับผู้โดยสารหลากหลาย  หากไม่ป้องกันอาจติดเชื้อได้ เบื้องต้นแนะนำให้คนขับสวมหน้ากากอนามัยตลอด เพื่อป้องกันตัวเองและหากติดเชื้อจะได้ไม่แพร่ไปสู่คนอื่นด้วย รวมถึงหมั่นทำความสะอาดเบาะที่นั่ง ประตูรถ เป็นไปได้ควรทำทุกครั้งหลังรับส่งผู้โดยสารแล้ว 

         ด้านนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร แนะนำการทิ้งหน้ากากอนามัยหลังใช้แล้ว โดยให้พับหรือม้วนจากหน้านอก ที่เป็นด้านสีฟ้าหรือเขียว ไม่เอาด้านในด้านสีขาวออกมาเพราะมีเชื้อโรคอยู่ จากนั้นใช้สายคล้องหูอีกครั้ง เพื่อให้หน้ากากอนามัยไม่หลุดออกมา หรือทิ้งในถุงและปิดปากถุงก็ได้ แต่ทางที่ดีแนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้า เพราะสามารถนำไปซัก และนำกลับมาใช้ต่อได้อีก ช่วยลดการใช้พลาสติกได้

          ขณะที่นางจันทิมา ถึงสุข คุณแม่และลูกสาว กำลังนั่งรอรถประจำทางอยู่ที่หน้าสยามเซ็นเตอร์ ยอมรับว่า รู้สึกกลัว ทำให้ขณะนี้หันมาตื่นตัวที่จะดูแลสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ตนและลูกสาวจะใส่หน้ากากอนามัยเพราะเราไม่รู้ว่าใครที่เดินผ่านหรือพูดคุยจะติดเชื้อบ้าง รวมถึงหันมาพกเจลล้างมือ จากแต่ก่อนที่ไม่เคยพกติดตัวเลยเพราะคิดว่าเกะกะ แต่ตอนนี้คิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องใช้แล้ว