เลขาธิการสทนช.เผยระบายน้ำ จากเขื่อนแก้ปัญหาน้ำเค็มรุก ผลิตน้ำประปา

           การแก้ปัญหาความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ได้ลงเรือตรวจคุณภาพน้ำจุดบรรจบแม่น้ำน้อย-แม่น้ำเจ้าพระยา อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยสามารถวัดค่าความเค็มได้0.1-0.2 กรัมต่อลิตร ยังไม่เกินจุดเฝ้าระวัง แต่จุดสำแลที่ลำเลียงน้ำเข้าไปผลิตน้ำประปาให้ชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑลห่างจากจุดนี้ประมาณ 20 กิโลเมตร วัดค่าความเค็มได้ 0.29 กรัมต่อลิตร เหนือจุดเฝ้าระวังเล็กน้อย แต่ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน 0.50 ซึ่งได้นำน้ำจากแม่กลองเข้ามาช่วย30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ปัจจุบันนำน้ำเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ทำให้สามารถประหยัดน้ำตอนบนได้ ซึ่งวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ และวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์  น้ำทะเลจะหนุนสูง ความเค็มจะรุกเข้ามาในพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยา 80-90 กิโลเมตร แต่สำแลอยู่กิโลเมตรที่96 จึงต้องพยายามผลักดันความเค็มไม่ให้ถึงกิโลเมตรที่ 90 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ 

         เลขาธิการสทนช. ยืนยันความเค็มในน้ำเจ้าพระยายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน สถานการณ์ขณะนี้ปกติ ทั้งเรื่องความเค็มและปริมาณน้ำ โดยท้ายเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำจากเดิม70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงพยายามให้การระบายน้ำกลับมาเป็นปกติ

           ส่วนน้ำเพื่อการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือแต่บางพื้นที่อาจจะต้องใช้น้ำในพื้นที่ตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายได้ ต้องรักษาน้ำตอนบนไม่ให้หายไปมากเกินไป เพราะขณะนี้มีน้ำหายไปเกือบครึ่งหนึ่ง แต่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้วิเคราะห์ปริมาณน้ำในแต่ละเขื่อนแล้วว่า จะมีน้ำเพื่อเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคถึงสิ้นเดือนมิถุนายน