สทนช.-กปน.เผยปล่อยน้ำจาก เขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์ ดันน้ำเค็มปนเปื้อนน้ำประปา

          สถานการณ์น้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา นายสมเกียรติ  ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ลงพื้นที่สถานีสูบน้ำสำแล จังหวัดปทุมธานี  ประชุมหารือกับนายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการการประปานครหลวง เพื่อหามาตรการควบคุมน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา

          นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาหลักๆมีอยู่2ประเด็น คือ น้ำที่มีอยู่มีปริมาณน้อย และ คุณภาพไม่เอื้อต่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งสถานีสูบน้ำสำแลเป็นจุดเริ่มต้น การผลิตน้ำประปาในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลว่าจะมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน โดยจะมีการตรวจสอบทุกๆ10นาที ก่อนที่จะส่งน้ำจากจุดนี้ส่งเข้าไปในคลองประปา ซึ่งช่วง15.00 น.วัดค่าได้0.29กรัม/ลิตร เกินจุดเฝ้าระวังเล็กน้อยแต่ไม่เกินค่ามาตรฐาน สถานการณ์น้ำดีขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ดึงน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ และแม่กลองลงมาเติม ทำให้กว่าจะมาถึงสำแลความเค็มก็ลดลง โดยน้ำที่ดึงมาจากแม่กลองจะไม่กระทบต่อชาวแม่กลอง

          โดยในเดือนหน้าจะมีน้ำทะเลหนุนสูง2ครั้ง จะต้องใช้รูปแบบเดิมควบคุมน้ำ ซึ่งกปน.จะสูบน้ำเข้าระบบครึ่งหนึ่งที่มาจากเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อมาดัก ไม่ให้ความเค็มรุกมาถึงสำแล ยืนยันปริมาณน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้งและต้นฤดูฝน เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ฝนจะมามากสุดในช่วงเดือนกรกฎาคม แต่อย่างไรก็ตามหากไม่ช่วยกันประหยัดน้ำ ภาคการเกษตรจะได้รับผลกระทบ รวมถึงประชาชนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะได้รับผลกระทบน้ำกร่อยบ้างเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

          นายปริญญาระบุว่า ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ไม่พบปัญหาน้ำเค็ม เนื่องจากกปน.ได้ผลักดันน้ำ 3 ขั้นตอน ด้วยน้ำจืด หยุดสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำสำแล และ ควบคุมประตูน้ำคลองลัดโพธิ์ ทำให้ค่าความเค็มของน้ำดีขึ้น แต่เป็นเพียงระยะสั้น อนาคตจะต้องร่วมกับ สทนช.หามาตรการแก้ปัญหาระยะยาวต่อไป