ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2563

ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2563

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ยกระดับเตือนภัยโคโรนา เป็นระดับสูง หลังพบการแพร่ระบาดในคนที่ไม่เคยเดินทางไปจีน

            เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก(WHO) ซึ่งเดินทางเยือนจีนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์และมีโอกาสเข้าพูดคุยกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน บอกว่าการประชุมฉุกเฉินมีความจำเป็น สืบเนื่องจากพบคนไข้ที่มีการติดเชื้อไวรัสนอกประเทศจีนมากขึ้นเรื่อยๆส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสมักแสดงอาการเพียงเล็กน้อย แต่ราว 1 ใน 5 ล้มป่วยรุนแรง ในนั้นรวมถึงเป็นปอดบวมและภาวการณ์หายใจล้มเหลว หลังพบผู้ป่วยกลุ่มแรกครั้งแรกในวันที่ 31 ธันวาคม ไวรัสชนิดนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 133 ศพรักษาหายแล้ว 126 คน และมีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 6,165 คน(ข้อมูลล่าสุด 05.00น.) ประเทศล่าสุดที่มีการติดเชื้อคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี พบผู้ติดเชื้อ 4 คน องค์การอนามัยโลกรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่รายงานพลาดถึง 3 ครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอ้างว่าความเสี่ยงระดับโลกของการแพร่ระบาดอยู่ในระดับ "ปานกลาง" แทนที่จะเป็น "ระดับสูง"

            ด้าน ไมเคล ไรอัน ผู้อำนวยบริหารโครงการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก เรียกร้องรัฐบาลชาติต่างๆทั่วโลก ในนั้นรวมถึงประเทศที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ให้หามาตรการเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส

            รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยในวันพุธ(29ม.ค.) ว่ากำลังเตรียมรับพลเมืองราวๆ 200 คนที่ติดค้างอยู่ในเมืองอู่ฮั่นออกมาและกักกันโรคพวกเขา โดยเที่ยวบินเช่าเหมาลำจะออกเดินทางจากอู่ฮั่นในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) แต่ไม่ได้ยืนยันว่าจะลงจอดที่ไหนในสหราชอาณาจักร

              ขณะเดียวสายการบินหลายแห่งเริ่มลดเที่ยวบินหรือระงับเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่จีน แต่ยังมีสายการบินบางส่วนที่ยังไม่ปรับแผนปฏิบัติการต่างๆในจีน ในนั้นรวมถึงเอสเอเอสและเวอร์จิน แอตแลนติก

6 ประเทศนำเครื่องบินรับพลเมืองออกจากอู่ฮั่น  

          ที่ผ่านมามี 2 ประเทศที่ส่งเครื่องบินไปรับพลเมืองกลับประเทศ คือ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ มีชาวญี่ปุ่น 206 คนเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารของญี่ปุ่นจากเมืองอู่ฮั่นถึงกรุงโตเกียวเมื่อเช้านี้ ทั้งหมดจะถูกกักตัวรอดูอาการ 14 วัน และยังมีชาวญี่ปุ่นอีก 450 คนอยู่ระหว่างรอเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น

          ส่วนอีก 6 ประเทศอยู่ระหว่างเตรียมอพยพพลเมืองออกจากมณฑลหูเป่ย คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส และอังกฤษ

          ในวันนี้ เกาหลีใต้ จะส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปเมืองอู่ฮั่น เพื่อทยอยลำเลียงพลเมืองเกาหลีใต้ 700 คนออกจากเมืองอู่ฮั่น โดยทีมแพทย์ของศูนย์การแพทย์แห่งชาติในกรุงโซล สถานพยาบาลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในเกาหลีใต้ จัดเตรียมห้องเดี่ยว 7 ห้องสำหรับรักษาผู้ติดเชื้อไวรัส แต่ละห้องมี 1 เตียง ตั้งเต็นท์ด้านนอกอาคาร พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาโดยใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือซีที สแกน เพื่อแยกกลุ่มผู้ป่วยที่อาจจะติดเชื้อไวรัสออกจากผู้ป่วยทั่วไปที่รักษาตัวในศูนย์การแพทย์

          ขณะที่เครื่องบินของสหรัฐฯ ลำเลียงพลเมืองอเมริกัน 240 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทูตและครอบครัวจากเมืองอู่ฮั่นได้แวะจอดเติมเชื้อเพลิงที่รัฐอลาสก้า ซึ่งจะมีการตรวจร่างกายให้แน่ใจว่าไม่ติดเชื้อไวรัส ก่อนเดินทางมุ่งหน้าไปที่รัฐแคลิฟอร์เนีย

         ทำเนียบขาวสหรัฐฯ มีคำแนะนำไปยังสายการบินหลายแห่งของสหรัฐฯ ให้พิจารณายกเลิกเที่ยวบินจากจีนมาที่สหรัฐฯ โดยสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์สที่มีเที่ยวบินจากจีนมาสหรัฐฯมากที่สุดประกาศยกเลิกเที่ยวบินจากจีนและฮ่องกงตั้งแต่เดือนก.พ.ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

          ขณะที่ สายการบินเดลตา แอร์ไลน์ส และอเมริกัน แอร์ไลน์ส เพิ่มเติมทางเลือกให้กับผู้โดยสารที่จองเที่ยวบินล่วงหน้า ว่าจะยกเลิกการเดินทางหรือจะเปลี่ยนเป้าหมายการเดินทาง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯให้ความเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯสามารถควบคุมและจัดการกับสถานการณ์ในประเทศได้

         นักวิเคราะห์ คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 2 อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ แต่มีปัจจัยเสี่ยง เช่นการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอาจจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ลดลง

          รอยเตอร์ สำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 108 คน พบว่า ส่วนใหญ่ 95 คน คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้เท่าเดิม คือ ระหว่างร้อยละ 1.50 ถึงร้อยละ 1.75 ในการประชุมนโยบาย

ปรับยอดทหารอเมริกันบาดเจ็บ จากการโจมตีของอิหร่าน

             กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ระบุ มีทหารอเมริกันในฐานทัพที่อิรัก บาดเจ็บทางสมองเพิ่มเป็น 50 คน จากการที่อิหร่านโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อต้นเดือน นับเป็นการปรับเพิ่มตัวเลขครั้งที่ 3 ภายหลังจากที่ฐานทัพอากาศเอน อัล-อาซาดในอิรัก ซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ ได้ถูกขีปนาวุธอิหร่านถล่มไม่กี่วัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า มีทหารได้รับบาดเจ็บ 11 คน ต่อมาในสัปดาห์ที่แล้ว เพนตากอนปรับตัวเลขเป็น 34 คน ล่าสุดในวันอังคาร (28 ม.ค.) พันโทโธมัส แคมป์เบลล์ โฆษกเพนตากอน แถลงว่า พบทหารอีก 16 คนมีภาวะบาดเจ็บที่สมอง  ในบรรดาทหารทั้ง 50 คนที่บาดเจ็บนั้น 31 คนกลับไปปฏิบัติภารกิจได้แล้ว  ทหารที่บาดเจ็บได้รับการรักษาในอิรักหรือศูนย์การแพทย์ทหาร ซึ่งรวมถึงศูนย์การแพทย์ทหารสหรัฐฯ ในคูเวต และศูนย์การแพทย์ประจำภูมิภาคแลนด์ชตูลในเยอรมนี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทหารของอเมริกานอกประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

เฟดคงดอกเบี้ยนโยบาย ร้อยละ 1.50

            เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับปัจจุบันที่ร้อยละ 1.50 ถึง 1.75 หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ของปี 2019 เฟดระบุว่านโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมต่อการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตราปานกลาง แต่การลงทุนในภาคธุรกิจและการส่งออกยังคงอ่อนแอ

            นอกจากนี้ เฟดยังย้ำที่จะให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับร้อยละ2 ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด จากเดิมที่เฟดมักระบุว่า เฟดกำลังพิจารณาเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับร้อยละ 2 ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด

ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลง

           สถานการณ์ราคาน้ำมันโลก ไลท์สวีทครูต ตลาดนิวยอร์ค ปรับตัวลดลง 14 เซนต์ อยู่ที่ 53.19 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ ทะเลเหนือ ลอนดอน ลดลง30 เซนต์ อยู่ที่ 59.81 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 11.60 จุด อยู่ที่ 28,734.45 จุด และราคาทองคำโคเม็กซ์ ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 4.70 เหรียญต่อออนซ์ อยู่ที่ 1,580.70 เหรียญต่อออนซ์