ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันอังคารที่ 28 มกราคม 2562

จีนยังสกัดโรคไม่ได้ไวรัสโคโรนาอาละวาดไม่หยุด

          คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รายงานสถานการณ์ของโรคปอดอักเสบจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 มีเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉพาะในวันอาทิตย์เพียงวันเดียวมีผู้ป่วยเสียชีวิตถึง 24 ราย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 80 ราย โดยเฉพาะที่เมืองอู่ฮั่นแห่งเดียวมีผู้เสียชีวิตรวม 76 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 2,800 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จำนวนกว่า 300 ราย

ไทยยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินระดับ 3

          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์กรณีไวรัสโคโรนาและฝุ่น PM 2.5 โดยยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เป็นระดับ 3 ให้สอดคล้องกับความรุนแรงของสถานการณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์โรค ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และกำหนดมาตรการต่างๆ อย่างเหมาะสม รวมทั้งสามารถบริหารจัดการทรัพยากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และทางทหาร ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเฝ้าระวัง ค้นหา และคัดกรอง ณ ช่องทางเข้า-ออกประเทศ ทั้ง 5 สนามบิน และช่องทางอื่นๆ ทั้งทางบก บริเวณชายแดน และทางเรือ ณ ท่าเรือต่างๆ ด้วย เพื่อคัดกรอง ผู้เดินทางมาจากทุกพื้นที่เสี่ยง อาทิ เมืองอู่ฮั่น กว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง และเมืองอื่นๆ ที่มีการระบาด ตามคำประกาศของทางการจีน นอกจากนี้ ยังมีความพร้อมในการรักษา ส่งต่อ และการจัดตั้งพื้นที่ควบคุม เมื่อมีความจำเป็น โดยมีการชี้แจงสถานการณ์ตามข้อเท็จจริง ไม่ปิดบังข้อมูลใดๆ ขอให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของรัฐบาลอยู่ในระดับมาตรฐานสากล การคัดกรองได้ผลดี พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสนี้ 8 ราย ทั้งหมดติดเชื้อจากประเทศจีน โดย 5 รายแรกหายแล้ว แพทย์ให้กลับบ้านได้ ซึ่งถือว่าเป็นการรักษาที่ได้ผลดี เหลือผู้ป่วยอีก 3 ราย ที่ยังคงรับการรักษาในโรงพยาบาล สถานการณ์โดยรวมขณะนี้ถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 100% แต่เราต้องไม่ประมาท เราต้องช่วยกันสอดส่อง เป็นหูเป็นตา ในการเฝ้าระวังและดูแลตัวเอง ให้ความร่วมมือกับทางการ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นโรคที่ป้องกันได้ โดยขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ เน้นดูแลสุขอนามัยเรื่อง กินร้อน ช้อนกลางล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย"

รอจีนอนุญาตนำเครื่องบินลงจอดที่อู่ฮั่น

          ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยมีการเตรียมความพร้อมเรื่องการรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่นตั้งแต่เริ่มมีการประกาศสถานการณ์ของโรคระบาด และมีการประสานเพื่อนำเครื่องบินลงจอด แต่ประเทศจีนยังไม่อนุญาต ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีการสอบถามและทำงานอยู่ตลอด

          พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า กองทัพอากาศมีการเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องบิน และทีมแพทย์ แต่จีนยังไม่อนุมัติให้ไทยนำเครื่องบินลงจอด

          ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าผู้ป่วยทั้ง 8 คนที่พบในไทย ติดเชื้อมาจากนอกประเทศไทย ไม่ได้ติดเชื้อจากในประเทศ และผู้ป่วยที่พบในประเทศไทยยังไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน โดยในวันนี้(28 ม.ค.) จะเสนอมาตรการป้องกันต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ขอให้มีความมั่นใจว่าการควบคุมโรคในประเทศเราไม่เป็นสองรองใคร มีความก้าวหน้าและความทันสมัยและมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ

          นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจากเมืองอู่ฮั่นที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยเดินทางกลับไปเกือบหมดแล้ว แต่จากสถานการณ์ของโรคทำให้นักท่องเที่ยวจากจีนในช่วง 3 เดือนนับตั้งแต่ช่วงตรุษจีนถึงเดือนเมษายนจะหายไปประมาณ 1ล้าน 8 แสน 9 หมื่นคน คิดเป็นร้อยละ 70 และรายได้ที่จะหายไปอยู่ที่ประมาณ 9 หมื่น 4 พันล้านบาท

กัมพูชาพบผู้ป่วยรายแรก

          กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชายืนยันพบผู้ป่วยรายแรกซึ่งเป็นชายชาวจีนที่เดินทางพร้อมกับครอบครัวจากเมืองอู่ฮั่น มาถึงเมืองสีหนุวิลล์เมื่อวันที่ 23 มกราคม และเริ่มแสดงอาการป่วยในวันที่ 25 มกราคม จึงเข้ารับการรักษาซึ่งตอนนี้อาการทรงตัวแล้ว ทางการกัมพูชาจึงเรียกร้องให้ผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นเข้ารับการตรวจร่างกาย

ไวรัสอู่ฮั่นฉุดเศรษฐกิจจีน ป่วนการขยายตัวจีดีพีโลก

          สำหรับเมืองอู่ฮั่น เป็นเมืองอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สำคัญของจีน โดยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2562 อยู่ที่ระดับร้อยละ 7.8 การปิดเมืองจึงส่งผลกระทบกับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนโดยตรง "ดิ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต" หรือ อีไอยู เผยแพร่รายงานระบุว่า สถานการณ์ของโรคระบาดส่งผลกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจจีนประมาณร้อยละ 0.5-1 ขณะที่มีคาดการณ์อัตราการเติบโตจีดีพีของจีนอยู่ที่ร้อยละ 5.9 แม้ว่าบรรดานักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ จะมีความเห็นตรงกันว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าไวรัสซาร์ส เมื่อปี 2546 ซึ่งในครั้งนั้นส่งผลกระทบต่อจีดีพีจีนถึงร้อยละ 2

           ด้านนักเศรษฐศาสตร์จากแคปิตัล อิโคโนมิกส์ อธิบายว่า ปัจจุบันการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจจีนกับเศรษฐกิจโลกมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้น จนเพิ่มความเสี่ยงต่อการลุกลามไปยังเศรษฐกิจโลกได้ นอกจากนี้ในแต่ละปียังมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกจำนวนกว่า 100 ล้านคน ทำให้เกิดความตื่นตระหนกว่าจะเป็นการเดินทางที่นำโรคระบาดไปยังพื้นที่อื่น ๆ

ฮ่องกงมาราธอนยกเลิกแข่ง

          คณะกรรมการจัดการแข่งขันฮ่องกง มาราธอน ประกาศยกเลิกการแข่งขันในวันที่ 9 กุมภาพันธ์และให้คืนเงินค่าสมัครผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 74,000 คนแล้ว เนื่องจากไม่มั่นใจความปลอดภัยในการป้องกันโรคระบาด หลังจากที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นสูงสุดด้านสาธารณสุข และฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาหลายรายการต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดการแข่งขันในจีน

...