ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563

27 มกราคม 2563, 05:58น.


ปธน.จีนประกาศภาวะฉุกเฉินสูงสุดทั่วประเทศ



          สถานการณ์ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัส ซึ่งพบผู้ป่วยในหลายเมืองของจีน หน่วยปกครองระดับมณฑล 30 แห่งประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุด เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ จัดการประชุมด้านการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัส โดยจะส่งคณะทำงานพิเศษไปยังมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของประเทศ เพื่อแนะนำแนวทางการปฏิบัติงาน และออกประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในระดับสูงสุด เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด จากนั้นบรรดาเขตการปกครองต่างๆ ของจีน ก็ได้ทยอยประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุด



จีนสั่งห้ามค้าขายสัตว์ป่า



          กระทรวงเกษตร, สำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐ และสำนักงานป่าไม้และทุ่งหญ้าแห่งชาติจีน ออกคำสั่งห้ามการเพาะเลี้ยง, ขนย้ายและขายสัตว์ป่าเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะยุติ คำสั่งนี้มีผลครอบคลุมธุรกิจทุกชนิดและการค้าสัตว์ป่าทุกรูปแบบ ไม่ว่าในตลาด, ร้านอาหาร และการค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ ตามที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสัตว์ป่าเป็นแหล่งฟักเชื้อไวรัสชนิดนี้ที่กลายพันธุ์จนสามารถแพร่สู่มนุษย์ได้ เช่นเดียวกับไวรัสซาร์สที่ทำให้มีชาวจีนและฮ่องกงเสียชีวิตประมาณ 650 คนเมื่อปี 2545-2546 ซึ่งแม้ว่าโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะไม่รุนแรงเท่าซาร์ส แต่ติดต่อได้ง่ายกว่าซาร์ส



มณฑลหูเป่ยเงียบเหงา



          การที่ทางการจีนออกประกาศปิดเมืองอู่ฮั่นที่มีประชากร 11 ล้านคนและเมืองที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งห้ามยานพาหนะวิ่งภายในเมืองยกเว้นรถฉุกเฉิน ทำให้อู่ฮั่นกลายเป็นเมืองร้าง ท่ามกลางเสียงประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงเป็นระยะ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนว่าอย่าเชื่อข่าวลือและอย่าแพร่ข่าวลือ ผู้ที่มีอาการไม่ค่อยสบายให้รีบไปโรงพยาบาล



          นอกจากนี้กรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ระงับการให้บริการรถโดยสารทางไกลทั้งขาเข้าและขาออกเมืองตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไป ส่วนเมืองใหญ่อื่น ๆ ออกประกาศบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ



          ตั้งแต่วันนี้ จีนห้ามกรุ๊ปทัวร์เดินทางออกนอกประเทศ หลังจากที่มีคำสั่งห้ามเดินทางภายในประเทศมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์



หลายประเทศทยอยอพยพพลเมือง



          กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ จัดเที่ยวบินอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานกงสุลอู่ฮั่นกลับนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค.) โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯหรือ ซีดีซี ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายที่ 3 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดย 2 รายก่อนหน้านี้พบที่นครชิคาโกและรัฐวอชิงตัน



          รัฐบาลฝรั่งเศสและบริษัทพีเอสเอ ผู้ผลิตรถยนต์ฝรั่งเศส อพยพเจ้าหน้าที่และครอบครัวออกจากเมืองอู่ฮั่น โดยจะให้แยกกักกันเชื้อโรคระยะหนึ่งก่อนที่จะนำส่งกลับมาที่ฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อ 3 รายเมื่อวันศุกร์ ซึ่งทั้งหมดมาจากเมืองอู่ฮั่น



          ด้านนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น เตรียมเครื่องบินเช่าเหมาลำเพื่ออพยพพลเมืองประมาณ 430 คนออกจากเมือง



          ส่วนกงสุลเกาหลีใต้ในเมืองอู่ฮั่นกำลังอยู่ในระหว่างการสอบถามพลเมืองของตนว่าต้องการเดินทางออกจากเมืองหรือไม่ เพื่อเตรียมเช่าเหมาลำเครื่องบินต่อไป



ฝนตกหนักที่บราซิลมีผู้เสียชีวิตแล้ว 30



          ที่บราซิล สำนักป้องกันภัยพลเมือง รายงานว่า มีฝนตกหนักที่สุดในรอบ 110 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คนในพื้นที่ทางใต้ โดยมีน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในรัฐมีนัสเชไรส์ (Minas Gerais) ต้องอพยพประชาชน 3,500 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยมีผู้บาดเจ็บอีก 7 คนและสูญหายอีก 17 คน



เหตุแผ่นดินไหวตุรกีมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 35



          ที่ตุรกี จากเหตุแผ่นดินไหวระดับ 6.8 ที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันศุกร์ (24 ม.ค.) พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 35 คน และมีผู้บาดเจ็บกว่า 1,600 คน ซึ่งทางการเตือนประชาชนว่ายังไม่ควรกลับไปยังบ้านเรือนเนื่องจากยังมีอาฟเตอร์ช็อกรุนแรง ซึ่งจนถึงในวันอาทิตย์มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นแล้วมากกว่า 460 ครั้ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาสมัครเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายใต้ซากอาคารบ้านเรือนที่ทรุดพัง สามารถให้ความช่วยเหลืออกมาได้ 45 คน



          ประธานาธิบดีตุรกี ประกาศว่าปฏิบัติการค้นหาจะยังดำเนินต่อไป ทั้งเตรียมสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งจะเป็นบ้านที่มีความแข็งแรงกว่าเดิม



อิรักชุมนุมขับไล่ทหารสหรัฐฯ



          กรณีที่มีชาวอิรักจำนวนมากร่วมการชุมนุมใหญ่ในกรุงแบกแดด เมื่อวันศุกร์ เพื่อเรียกร้องให้สหรัฐฯและพันธมิตรถอนทหารออกจากประเทศ ตามมติของสภาผู้แทนราษฎรในกรุงแบกแดด เมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีบาร์ฮัม ซาลีห์ ของอิรัก ระบุว่า อิรักเป็นรัฐเอกราชและสนับสนุนการประท้วงของชาวอิรัก ส่วนแกรนด์ อยาตอลเลาะห์ อาลี อัล-ซิสตานี ผู้นำสูงสุดของชาวชีอะห์ในอิรัก เรียกร้องให้ทุกขั้วการเมืองในอิรักร่วมกันฟื้นฟูเสถียรภาพของอิรัก



          ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนกรานว่ากองทัพสหรัฐฯ ยังไม่มีกำหนดเวลาที่แน่ชัดในการถอนทหารออกจากอิรัก เว้นแต่ว่ารัฐบาลอิรักจะจ่ายค่าชดเชยให้แก่สหรัฐฯ ที่มีการลงทุนโครงการทางทหาร และอื่น ๆ ในอิรัก



...

ข่าวทั้งหมด

X