*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

+++หลายเมืองในสหรัฐฯกำลังวุ่นวายอย่างหนัก หลังมติคณะลูกขุนไม่ฟ้องตำรวจผิวขาวที่ยิงวัยรุ่นผิวสีเสียชีวิต หลังรู้ผลการตัดสินของคณะลูกขุนที่ไม่ฟ้องนายดาร์เรน วิลสัน ตำรวจที่ยิงนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีวัย 18 ปีเสียชีวิต เมื่อเดือนส.ค. ที่เมืองเฟอร์กูสัน ชานเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรีของสหรัฐฯ ผู้ประท้วงหลายร้อยคน ชุมนุมหน้าสถานีตำรวจ และพากันทุบรถตำรวจ ร้านค้าหลายร้านถูกปล้นสะดมภ์ข้าวของ และวางเพลิง จนตำรวจต้องโยนแก๊สน้ำตาเข้าสลายชุมนุม พร้อมทั้งมีเสียงปืนดังขึ้นหลายจุด แต่ไม่มีชัดเจนว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือถูกจับกุม

+++นายโรเบิร์ต แมกคัลลอช อัยการรัฐ มิสซูรี ได้อ่านคำวินิจฉัยของคณะลูกขุนใหญ่ ระบุว่า หลักฐานที่แสดงต่อคณะลูกขุนบ่งชี้ว่า การยิงของนายวิลสันเป็นการป้องกันตัวขณะปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุลักทรัพย์ และแจงว่า การโต้เถียง เกิดขึ้นขณะที่นายวิลสัน นั่งอยู่ในรถสายตรวจ และนายบราวน์ยืนอยู่ที่หน้าต่างรถ นายวิลสันให้การต่อคณะลูกขุนว่า นายบราวน์มุดเข้าไปในรถและทำร้ายตัวเองรวมทั้งพยายามแย่งปืน  ภาพถ่ายหลังเกิดเหตุที่อัยการนำออกเผยแพร่จะเห็นได้ว่านายวิลสันมีรอยช้ำเล็กน้อยที่คางด้านขวา ส่วนกรณีที่พยานให้การว่า นายบราวน์ ชูมือยอมจำนนขณะถูกสังหาร นายแมกคัลลอช กล่าวว่า ขัดแย้งกับหลักฐานทางกายภาพและคำให้การของพยานคนอื่นๆ

+++เช่นเดียวกับที่นครลอสแองเจลิส มีประชาชนนับร้อยรวมตัวกันในสวนสาธารณะแสดงความไม่พอใจ แต่ไม่เกิดเหตุรุนแรงใดๆ

+++ในเมืองโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนไปตามท้องถนน และปิดทางหลวงสาย 580 ทั้งสองฝั่ง พร้อมเรียกร้องให้จับกุมนาย วิลสัน มีรายงานการประท้วงบานปลายไปยังเมืองอื่นๆ ด้วย เช่น นิวยอร์ก ชิคาโก และวอชิงตัน

+++ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ วิงวอนให้ชาวอเมริกันอยู่ในความสงบ และขอให้ทุกคนเคารพการตัดสินของศาล และครอบครัวของนายบราวน์ วัยรุ่นที่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต เรียกร้องให้ฝูงชนอยู่ในความสงบรู้สึกผิดหวังแต่ก็ไม่อยากให้มีการตอบโต้ด้วยความรุนแรง

+++ขณะเดียวกัน นายอีริก โฮลเดอร์ รัฐมนตรียุติธรรม แถลงว่า รัฐบาลจะยังคงสืบสวนในประเด็นสิทธิพลเมืองในกรณีของนายบราวน์ ต่อไป รวมทั้งตรวจสอบแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเฟอร์กูสันโดยภาพรวม 

+++ส่วนที่รัสเซีย นายคอนสแตนติน โดลกอฟ ทูตพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นที่สะท้อนให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติด้านเชื้อชาติในสหรัฐฯซึ่งท้าทายเสถียรภาพในประเทศ

+++ส่วนจีน ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังรุนแรงของตำรวจในกรณีนี้แต่ก็ไม่ได้แสดงความเห็นอะไร

+++สถานการณ์ล่าสุดของฮ่องกง ตำรวจจับผู้ประท้วง80 คน หลังเกิดการปะทะกันเนื่องจากผู้ประท้วงพยายามขัดขวางตำรวจที่เข้าไปรื้อถอนจุดปักหลักประท้วงในย่านมองก๊กที่ปักหลักมาเกือบ 2 เดือนแล้ว คาดว่า ตำรวจจะเริ่มรื้อถอนบนถนนนาธานในเช้าวันนี้

+++ด้านนางแคร์รี ลัม หัวหน้าคณะเลขาธิการผู้บริหารฮ่องกง  ยังคงหวังว่าจะสามารถนั่งลงเจรจากับสหพันธ์นักศึกษาฮ่องกงเรื่องอนาคตพัฒนาการทางการเมืองของฮ่องกง หากตัวแทนนักศึกษายอมเจรจาอย่างจริงจังเรื่องเงื่อนไขที่จะยุติการปักหลักประท้วงด้วยความสมัครใจ ทางการก็ยินดี

+++เกิดเหตุมือระเบิดพลีชีพหญิง 2คนจุดชนวนระเบิดโจมตีตลาดที่มีผู้คนจับจ่ายใช้สอยจำนวนมากในเมืองไมดูกูรีทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย30ศพ โดยอับบา อาจี คัลลีผู้ประสานงานชุดเฉพาะกิจร่วมพลเรือนของรัฐบอร์โน กล่าวว่า หญิงสาววัยรุ่น 2คนซึ่งคลุมผ้าคลุมศีรษะเดินเข้าไปในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านและระเบิดตัวเอง โดยระเบิดลูกแรกสังหารผู้หญิงไปประมาณ 3คนแต่เมื่อมีผู้คนมารวมตัวกันเพื่อเฝ้าดูสถานการณ์รอบจุดเกิดเหตุมือระเบิดคนที่ 2ก็ได้โอกาสจุดชนวนระเบิดอีกลูกสังหารประชาชนอีกประมาณ 30คน ทหารและตำรวจปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจไนจีเรียยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุระเบิดครั้งนี้

+++สำนักทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส แถลงว่า ฝรั่งเศสขอระงับไว้ก่อนจนกว่าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งเรื่องการส่งมอบเรือรบให้กับรัสเซียหลังมีกระแสข่าวที่สร้างความกดดันอย่างต่อเนื่องจากประเทศพันธมิตรในกลุ่มนาโต(องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ)อันเนื่องมาจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในยูเครนเพราะการกระทำของรัสเซีย ทั้งนี้เรือรบลำแรกชื่อ วลาดิวอสตอค จากจำนวน 2ลำที่รัสเซียสั่งซื้อจากฝรั่งเศสจอดเทียบท่าอยู่ที่เมืองแซงต์นาแซร์ และมีทหารเรือของรัสเซีย400คนใช้เวลาหลายเดือนในการฝึกซ้อมกับเรือรบลำนี้ ส่วนเรือรบลำที่สองชื่อเซวาสโตโพลซึ่งตั้งชื่อตามท่าเรือบนแหลมไครเมียนั้นถูกเลื่อนการส่งมอบออกไปเป็นปีหน้า แถลงการณ์ของสำนักทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็นการยกเลิกการทำข้อตกลงซื้อขายเรือรบ2ลำระหว่างฝรั่งเศสกับรัสเซียแต่ก็แสดงให้เห็นว่าฝรั่งเศสเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะยกเลิกสัญญาเพราะมีมูลค่ากว่า1พันล้านยูโร(ราว41,000ล้านบาท)และสามารถสร้างงานได้หลายพันตำแหน่งช่วงที่เศรษฐกิจของฝรั่งเศสกำลังอยู่ในภาวะซบเซาถือเป็นการซื้อขายอาวุธครั้งใหญ่ระหว่างประเทศสมาชิกในกลุ่มนาโตกับรัสเซีย

+++เจ้าหน้าที่ตำรวจอียิปต์ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย13ศพ เมื่ออาคารสูง 7ชั้นพังถล่มในเขตมาตาริยา ชานเมืองด้านตะวันตกของกรุงไคโรเมืองหลวงอียิปต์ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ8คนด้วย ขณะที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตอื่นๆ ที่ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังและประชาชนที่อยู่ในอาคารใกล้เคียงอีกหลายหลังต้องอพยพ คาดว่ามีสาเหตุมาจากการก่อสร้างที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่วนเพื่อนบ้าน กล่าวว่าชั้นที่ 4ต่อเติมอย่างผิดกฎหมายทั้งนี้เหตุการณ์อาคารพังถล่มถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำในอียิปต์เนื่องจากการก่อสร้างใช้วัสดุคุณภาพต่ำสร้างในพื้นที่ชนบทและชุมชนแออัดการขาดแคลนที่อยู่อาศัยและการไร้การตรวจสอบจากรัฐบาลขณะเดียวกัน บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็แสดงหาผลกำไรให้ได้มากที่สุดโดยไม่มีการขออนุญาตในการก่อสร้าง

+++นายแพทย์ชาวอิตาลี ที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อแต่อยู่ในวัย 50ปี ติดเชื้อไวรัสอีโบลา ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศเซียร์ราลีโอนและยังเป็นแพทย์ชาวอิตาลีคนแรกที่ติดเชื้อ เดินทางด้วยเครื่องบินกลับมาถึงฐานทัพอากาศในกรุงโรมแล้ว จากนั้นได้ถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันชีวภาพไปยังโรงพยาบาลในกรุงโรม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีความชำนาญเป็นพิเศษในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในกรุงโรมเปิดเผยว่า อาการของคนไข้คือ นายแพทย์ชาวอิตาลีผู้นี้ยังทรงตัวอยู่อาการอย่างหนึ่งที่พบคืออาเจียนและท้องร่วงแต่ไม่มีเลือดออกเขาได้รับการรักษาด้วยตัวยาแบบเดียวกับในสหรัฐและที่อื่นๆในยุโรป

+++เจ้าหน้าที่ฝังศพ ในเมืองเคเนมา ประเทศเซียร์รา ลีโอน พากันทิ้งศพผู้ป่วยอีโบลาไว้ในบริเวณโรงพยาบาลเพื่อเป็นการประท้วงที่ทางการยังไม่จ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงในการเก็บศพของผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาไปฝัง โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งผละงานประท้วงกรณีดังกล่าวได้ทิ้งศพ 15ศพไว้ในโรงพยาบาลหลักของเมืองซึ่งมีรายงานว่า หนึ่งในศพผู้เสียชีวิตถูกทิ้งไว้ในสำนักงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาลและอีก 2ศพถูกทิ้งไว้บริเวณประตูทางเข้าของพยาบาล ทั้งนี้เซียร์รา ลีโอนเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา มีผู้เสียชีวิตมากกว่า1,200ศพและเมืองเคเนมา เป็นเมืองใหญ่อันดับ3ในเซียร์ราลีโอน และเป็นเมืองใหญ่สุดในภาคตะวันออกของประเทศซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่พบการระบาดของอีโบลาในประเทศนี้เจ้าหน้าที่ฝังศพกล่าวว่า ไม่ได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงความเสี่ยงพิเศษตามที่ได้ตกลงกันไว้มา2เดือนแล้วคือต.ค.และพ.ย. อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ศพที่ถูกทิ้งไว้ ถูกเก็บแล้วแต่เจ้าหน้าที่ยังคงประท้วงกันอยู่ยังไม่มีแถลงการณ์จากฝ่ายบริหารของโรงพยาบาลหรือกระทรวงสาธารณสุขเซียร์ราลีโอน

+++นางไอลีน เมแทรน หญิงชาวฟิลิปปินส์วัย34ปี เป็นปลื้มสุด ๆเมื่อเธอได้พบหน้าสุนัขตัวโปรดของเธออีกครั้งหลังพลัดพรากกันนาน 1ปีเนื่องจากสุนัขของเธอสูญหายระหว่างเกิดเหตุโกลาหลในช่วงที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดของประเทศพัดถล่ม โดยเจ้าสุนัขพันธุ์ทางอายุ 9ปีชื่อบันนี รอดชีวิตจากคลื่นยักษ์ที่เกิดจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนแต่สูญหายในช่วงที่ทุกคนกำลังหนีเอาตัวรอดกัน หลังพายุถล่มเมื่อวันที่8พ.ย.ปีที่แล้ว เมแทรนและสามีของเธอ พบเจ้าบันนี ในสภาพผอมโซกำลังหากินอยู่ ที่ถังขยะแห่งหนึ่งในเมืองทาโคลบัน ภาคกลางของประเทศ เมื่อเดือนที่แล้วโดยเมืองทาโคลบันเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนซึ่งเป็นหนึ่งในพายุสร้างความหายนะที่สุดในประเทศมีผู้เสียชีวิต หรือสูญหายกว่า7,350คน

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ปิดในกรอบแคบๆท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน จากข้อมูลที่ปนเปของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดาวโจนส์ ลดลง 2.96 จุด ปิดที่ 17,814.94 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.38 จุด  ปิดที่ 2,067.03 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 3.36 จุด  ปิดที่ 4,758.25 จุด 

+++ราคาน้ำมันร่วงแรง  คาดโอเปกไม่ได้ข้อสรุปลดกำลังผลิตในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ แม้อุปทานโลกล้นตลาด สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน 2010 ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

+++ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผสมผสานของสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนจับตาอย่างระมัดระวัง ทองคำ ปิดบวกในกรอบแคบๆ เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,197.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์