หลังตำรวจควบคุมตัว พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมกับพวก ซึ่งของกลางที่จับกุมได้ มีมูลค่ารวมกว่า 2,000ล้านบาท พันตำรวจเอก สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือปปง. เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายการฟอกเงิน ในเบื้องต้น คาดว่า พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ไม่น่าจะมีบัญชีธนาคารหลายบัญชี เนื่องจาก ตำแหน่งผู้บังคังการตำรวจสอบสวนกลาง จะต้องถูกตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน การขยายผลจับกุมจึงเน้นไปที่บุคคลโดยรอบ ของผู้ต้องหา เชื่อว่า ค้าน้ำมันเถื่อน และบ่อนการพนัน น่าจะเป็นที่มาของเงินส่วนใหญ่ที่ตรวจยืดได้ และอาจมีการเชื่อมโยงกับผู้ก่อการร้ายในภาคใต้ เนื่องจาก การขนส่งน้ำมันเถื่อนในภาคใต้อาจต้องมีการจ่ายค่าพื้นที่ให้กับกลุ่มก่อการร้าย
ส่วนการดำเนินการขณะนี้ พนักงานสอบสวน กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำรายการบัญชีทรัพย์สิน แต่ เนื่องจาก ทรัพย์สินที่ตรวจพบมีมากกว่า 10,000 ชิ้น จึงต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการนานกว่าปกติ ส่วนทางปปง.ขณะนี้กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินและการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ต้องหาทั้งหมด เพื่อขยายผลการดำเนินการ
สำหรับ ทรัพย์สินทั้งหมดที่ตรวจยืดได้ จะถูกแบ่งออกเป็น2ส่วน คือ ทรัพย์สินที่ผู้ต้งหามีไว้ ได้มา หรือใช้ไป ในการดำเนินการกระทำความผิด เช่น เงินสด ในส่วนนี้พนักงานสอบสวนจะเป็นผู้ดูแล ส่วนทรัพย์สินที่ ผู้ต้องหานำไปแปลสภาพเป็นอย่างอื่น ตรงจุดนี้ถือเป็นอำนาจการดำเนินการของปปง. ส่วนของ วัตถุโบราณต่างๆ ปปง.จะตรวจสอบจากผู้ที่ประกอบอาชีพค้าวัตถุโบราณ เพื่อตรวจดูข้ออมูลการซื้อขายต่างๆ ส่วนผู้ต้องหาที่บุกรุกป่า ในจังหวัดราชบุรี ปปง.จะเข้าไปดูแลเรื่องการตรวจยืดเงินที่ได้จากการดำเนินการหาประโยชน์ในพื้นที่ ส่วนความผิดเรื่องหารบุกรุกป่าเป็นหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตวป่าและพันธ์พืช ที่จะต้องดูแล