หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การปราบปรามตำรวจที่ทุจริตคอรัปชั่นที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ว่า ไม่ควรเหมาร่วมกับตำรวจทั้งหมดว่าไม่ดี เพราะทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี ส่วนการขยายผลก็จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน จะตำแหน่งเล็กหรือใหญ่ ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด และอย่านำการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ในกรณี จ่ายสินบนน้ำมันเถื่อน หากสาวถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีอำนาจใดที่จะมาปกป้องคนทำความผิดได้
ด้านการปฎิรูปสำนักงานตำรวจ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการแก้ไขให้โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะการตัดกระบวนการนำอำนาจไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของระบบข้าราชการไทย
ส่วนกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มีใครห้ามไม่ให้พูด แต่หากคำพูดนั้นมีผลกระทบทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคม ก็จะมีมาตรการต่อไป ขณะนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. และฝ่ายความมั่นคงกำลังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของนักการเมืองอยู่ ถ้ามีการสร้างความวุ่นวายหรือส่งผลกระทบต่างๆ กติกาก็จะมีระดับจากน้อยไปหามาก เช่น ห้ามไปต่างประเทศ อยากพูดอะไรก็พูดอยู่ในประเทศห้ามไปที่อื่น หรือไปแล้วก็ห้ามทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งกติกามีระบุไว้ทั้งหมด ส่วนการลงสมัครรับการเลือกตั้งของนางสาวยิ่งลักษณ์ ในอนาคต อย่ามาถามตัวเอง แต่ต้องไปถามคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) หรือไปถามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่าลงสมัครได้หรือไม่
นายกรัฐมนตรีว่า ไม่ห้ามในการแสดงความคิดเห็น หรือจัดเสวนาของกลุ่มนักศึกษาต่างๆ แต่ขอให้การแสดงความเห็นนั้นมีประโยชน์ต่อรัฐบาลและคสช. โดยในอนาคตรัฐบาลเตรียมที่จะเปิดเวทีให้กลุ่มนักศึกษาและนักวิชาการสามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้
สำหรับ ของขวัญปีใหม่ที่ทางรัฐบาลเตรียมไว้ให้ประชาชน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกกระทรวงมีมาตรการทางเศรษฐกิจที่จะทำให้ประชาชนมีความสุขในการจับจ่ายใช้สอย มาตรการทางการเงิน และเรื่องการลงทุน เพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะหนี้สินส่วนบุคคลที่เป็นปัญหาของหลายคน ซึ่งรัฐบาลมีแนวทางการแก้หนี้ครัวเรือนที่เป็นรูปธรรม ซึ่งขณะนี้ก.คลังกำลังดำเนินการอยู่ โดยของขวัญปีใหม่ของแต่ละกระทรวงจะไม่ใช่การแจกของฟรี แต่จะเป็นตัวช่วยในการจับจ่ายใช้สอย การท่องเที่ยว และมาตรการต่างๆที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งจะมีการแถลงการอีกครั้งหนึ่ง