ประธานสภาฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 กรณีส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน
กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันไม่ว่าจะในกรณีใดก็ทำไม่ได้ แม้เครื่องลงคะแนนในห้องประชุมมีไม่เพียงพอ ส.ส.ก็ทำไม่ได้ และส.ส.จะไม่ยุ่งกับบัตรของคนอื่น และได้ส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขั้นตอนการตราร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณกำลังรอความชัดเจนว่าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ฉบับนี้จะสามารถประกาศใช้ได้ในเร็ว ๆนี้หรือไม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาวาระ 2 และ 3 รวมถึงผ่านการพิจารณาจากวุฒิสภาเรียบร้อยแล้ว ตามแผนงานเดิมคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปลายเดือนมกราคมหรืออย่างช้าต้นกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งล่าช้ากว่าปีงบประมาณปกติถึง 4 เดือน (เดือน ต.ค.เป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ) แต่ยังพอรับได้ เพราะมีเวลาใช้จ่ายเงิน 8-9 เดือนจนถึงสิ้นปีงบ 2563 ในเดือนกันยายนนี้ แต่การเสียบบัตรแทนกันในการลงมติ ทำให้ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณต้องล่าช้าออกไปอีก
โดยในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ส่วนราชการมีเวลานำเสนอโครงการ และทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างสั้นลง และจะทำให้การเบิกงบประมาณไปกระจุกตัวช่วงสิ้นปีงบประมาณ ทั้งนี้พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณระบุว่า กรณีที่งบประมาณใหม่ยังไม่ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา ให้นำงบประมาณกึ่งหนึ่ง หรือครึ่งหนึ่งของปีก่อนใช้ไปพลางก่อน ซึ่งขณะนี้งบประมาณปี 2563 ล่าช้าไปแล้ว 4 เดือน โดยมียอดเงินที่ใช้จ่ายไปแล้ว 1 ล้านล้านบาท จากวงเงินงบประมาณปี 2563 ทั้งหมด 3 ล้าน 2 แสนล้านบาท โดยคาดว่าเงินงบประมาณที่ยังเหลือใช้ได้โดยไม่เกินครึ่งหนึ่งนั้น ยังมีเงินเหลืออยู่ประมาณ 500,000 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะเบิกจ่ายได้ถึงเดือนมีนาคมเท่านั้น
เลื่อน "สวาป เผ่าประทาน" เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อแทน "ปู่ชัย"
กรณีที่นายชัย ชิดชอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรถึงแก่กรรมขณะมีอายุ 91 ปี เมื่อช่วงเช้านี้ มีผลให้พรรคภูมิใจไทยต้องเลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อขึ้นมาทดแทน คือนายสวาป เผ่าประทาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 15
จีนอัดฉีดงบประมาณเร่งควบคุมโรคปอดอักเสบอู่ฮั่น
กระทรวงการคลังของจีนจัดสรรงบประมาณจำนวน 1 พันล้านหยวน ให้กับมณฑลหูเป่ย เพื่อใช้ในการควบคุมสถานการณ์โรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อโคโรนาไวรัส2019 (2019 Novel Coronavirus : n-CoV) ซึ่งเป็นมาตรการล่าสุดของทางการจีน เพื่อควบคุมโรคที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยในเช้าวันนี้ทางการจีนรายงานพบจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 25 รายและมีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันการติดเชื้อเพิ่มเป็น 830 ราย ใน 29 มณฑล
ทางการกรุงปักกิ่งของจีน และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประกาศยกเลิกการจัดกิจกรรมตรุษจีนในบางพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส2019 ทั้งเกิดการซื้อหน้ากากอนามัยอย่างตื่นตระหนก นายแมทธิว เฉิง เลขาธิการผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระบุว่า รัฐบาลจับตาดูการซื้อขายหน้ากากอนามัย และจะตรวจสอบว่าหน่วยงานด้านสุขภาพมีหน้ากากอนามัยสำรองเพียงพอในช่วง 3 เดือนข้างหน้าหรือไม่
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การปิดท่าอากาศยานเมืองอู่ฮั่น จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนลดลงเล็กน้อยคือจาก 3 แสน 6 หมื่น 6 พันคนมาอยู่ที่ 3 แสน 5 หมื่น 5 พันคน-3 แสน 5 หมื่น 8 พันคน และไม่มีผลต่อภาพรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ผู้ประท้วงฮ่องกงกว่า 7,000 คน รอถูกดำเนินคดี
ทางการฮ่องกง เร่งดำเนินคดีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 7,000 คนฐานมีส่วนร่วมในการประท้วงรัฐบาลที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีผู้ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาแล้ว 1,092 ราย ถูกตัดสินโทษจำคุกแล้ว 12 ราย ผู้ที่ถูกลงโทษนานที่สุดคือ 14 เดือน เนื่องจากใช้ระเบิดเพลิงก่อความไม่สงบ นอกจากนั้น ผู้ถูกจับกุมเกือบครึ่งหนึ่งเป็นนักเรียนมัธยมหรือนักศึกษามหาวิทยาลัย
โดยผู้ถูกจับกุมส่วนใหญ่จะได้รับอนุญาตประกันตัว แต่หากถูกจับกุมซ้ำด้วยข้อหาเดิมก็จะต้องถูกควบคุมตัวเอาไว้จนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาคดี ซึ่งนับตั้งแต่วันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม มีผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมมากกว่า 400 ราย จากนั้นก็จะอนุญาตให้ประกันตัว
ยุติการค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมคดี “ไอซ์ หีบเหล็ก”
ความคืบหน้าคดีนายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือ "ไอซ์ หีบเหล็ก" วัย 40 ปี หลังจากที่การตรวจค้นบ่อน้ำภายในบ้านพักของนายอภิชัยเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่พบหีบเหล็กใบที่ 2 พร้อมโครงกระดูกอยู่ภายในเพิ่มเติมซึ่งเชื่อว่าเป็นศพที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปี ตรงตามเบาะแสของพยานที่ให้การว่า มีผู้เสียชีวิตในบ้านของนายอภิชัย 3 ศพ โดยขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีจะรอผลตรวจพิสูจน์โครงกระดูก และร่างภาพหญิงสาวที่คาดว่าเป็นผู้เสียชีวิต เพื่อติดตามหาญาติ และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
อัยการสั่งไม่ฟ้อง'ชัยวัฒน์-พวก'คดีหน่วงเหนี่ยวกักขัง-ฆ่าบิลลี่
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อส่งคืนสำนวนการสอบสวนจำนวน 17 แฟ้มในคดีที่ดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกับพวกรวม 4 คนในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก –บางกลอย) และความผิดฐานอื่นๆ ซึ่งพนักงานอัยการพิจารณาสำนวนคดีแล้วมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 นายบุญแทน บุษราคัม ผู้ต้องหาที่ 2 นายธนเสฎฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยง ให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมหรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม, ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดติดตัวไปด้วย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีกระทำการใดใดแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป, ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต, ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น
โดยมีความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์กับพวก ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 กรณียึดน้ำผึ้งป่าของบิลลี่ แล้วปล่อยตัวไปโดยไม่นำตัวส่งให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาลักของป่า
...
ชายจุดไฟเผาตนเองหน้าศาลในนิวยอร์ก ขณะที่มีการไต่สวนคดีทรัมป์
...
คลังสหรัฐฯ สั่งปรับผู้ผลิตพลาสติกในไทย ฐานละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
...
ทวีปอเมริกามีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมสูงกว่า 5 ล้านคน เพิ่มการเฝ้าระวัง
...
ข่าวทั้งหมด
