นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า ผู้ต้องขังกลุ่มตำรวจคดีรับส่วยน้ำมันเถื่อนและหมิ่นเบื้องสูงซึ่งถูกส่งตัวเข้าคุมขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในช่วงคืนแรกผู้ต้องขังมีอาการเครียดเล็กน้อย ต้องให้เวลาปรับตัว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของผู้ต้องขังใหม่ ส่วนพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. ยังไม่ได้รับการประสานจากตำรวจว่าจะส่งตัวเข้าเรือนจำเมื่อไร สำหรับเรือนจำมีหน้าที่แค่รับตัวผู้ต้องหาตามคำสั่งศาลมาควบคุมไว้เท่านั้น
ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า ได้เข้าไปพบกับผู้ต้องขังทั้ง 5 คนภายในแดนแรกรับ เพื่อแจ้งสิทธิและแนะนำเรื่องการปรับตัวอยู่ในเรือนจำ พร้อมกันนี้ยังแนะนำเรื่องการใช้จ่ายเงินในเรือนจำสำหรับซื้ออาหารและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นว่าผู้ต้องขังสามารถให้ญาติเปิดบัญชีฝากเงินไว้ใช้จ่ายได้ไม่เกินวันละ 300 บาท โดยขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกคุมขังอยู่ในแดนแรกรับ เรือนจำกันพื้นที่เฉพาะให้อยู่รวมกัน ห้ามไม่ให้ผู้ต้องขังคดีอาญาอื่นเข้ามาปะปนเพื่อความปลอดภัย สำหรับด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง ที่มีอาการป่วยถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในสถานพยาบาลภายในเรือนจำ หากอาการดีขึ้นก็จะถูกส่งมาควบคุมตัวไว้รวมกัน ในส่วนของอาหารการกินนั้น ในช่วงเช้าผู้ต้องขังได้สั่งซื้ออาหารจากร้านค้าสวัสดิการมากินรวมกัน โดยตั้งแต่เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ทางเรือนจำเปิดให้ญาติผู้ต้องขังลงทะเบียนเยี่ยมได้มีครอบครัวและญาติสนิทของกลุ่มตำรวจที่ถูกจับกุมดำเนินคดีพร้อมกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ทยอยเข้าเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งภรรยาของพล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผบก.รน.ได้พาสมาชิกในครอบครัวกว่า 10 คนมาเยี่ยมด้วย
สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกส่งเข้าเรือนจำฯ ขณะนี้มีทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผบ.รน, พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์, ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา, ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง และพลเรือนอีก 1 คน คือ นางสวงค์ มุ่งเที่ยง ถูกส่งตัวคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง