ผบ.ตร.ยืนยัน ขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ "พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์"

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงข่าวคดีจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมพวก โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล ผู้บังคับการ ปทส. พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม ร่วมแถลงข่าว และมีการนำภาพหลักฐานซึ่งเป็นภาพถ่ายทรัพย์สินหลายรายการทั้งเงินสด ทองรูปพรรณ พระเครื่อง รถยนต์และโฉนดที่ดิน ที่ตรวจยึดได้ในคดีที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ร่วมกับข้าราชการตำรวจและพลเรือน รวม 12 คน กระทำผิดหลายข้อหาหนัก รวมทั้งหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เรียกรับสินบน

ผบ.ตร. เปิดเผยว่า คดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญและมีความละเอียดอ่อน และมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในเชิงลึกได้ เพราะสำนวนคดีอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม  และการดำเนินคดีจากนี้ จะมีการสืบสวนขยายผลจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่า ยังมีการซุกซ่อนไว้ในสถานที่หรือบุคคลอื่นอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นทั้งหมด 15 จุด ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท

ส่วนการสอบปากคำ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา และสาเหตุที่มีการจับกุม เพราะที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้าย ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการแต่งตั้งโยกย้าย ส่วนทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เชื่อว่าได้รับมาจากการเรียกรับผลประโยชน์ ส่วยน้ำมันเถื่อน และบ่อนการพนันในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเชื่อว่าพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์และพวก น่าจะกระทำการลักษณะนี้มานานหลายปีแล้ว

สำหรับคดีของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังพบว่า มีข้าราชการตำรวจที่มีส่วนร่วมกับการกระทำความผิด โดยจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยเครือข่ายของนี้จะมีพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ทั้งหมด และมีพล.ต.ต.โกวิทย์และพ.ต.อ.อัครวุฒิ เป็นผู้ร่วมวางแผน

ผบ.ตร.ระบุว่า ไม่ทราบว่าผู้บังคับบัญชาในอดีตจะเป็นอย่างไร จึงปล่อยให้มีการกระทำผิดแต่หากจะใหญ่แค่ไหนก็จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งการดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. 1 ปีนี้ จะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ต้องสร้างมาตรฐานตำรวจไว้และวางกรอบเรื่องคุณธรรมกับตำรวจทุกนาย

ขณะที่พ.ต.อ. อัครเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นสถานที่ จำนวน 15 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ โดยเฉพาะบ้านพักของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ย่านแจ้งวัฒนะ และปากเกร็ด จำนวน 11 แห่ง พบของกลางที่เป็นตู้เซฟ ผังดินไว้และพบตู้เซฟ ที่ซุกซ่อนไว้ในห้องนิรภัย ธนบัตรทั้งเงินไทยและสกุลต่างประเทศ และยังพบวัตถุโบราณอีกจำนวนมาก ซึ่งต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนการตรวจค้นบ้านพักของพล.ต.ต.โกวิทย์ พบรถยนต์และทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่ง ขณะที่การตรวจค้นบ้านพักของพ.ต.อ.อัครวุฒิ  พบทองรูปพรรณ พระเครื่อง และเงินสด จำนวนมากเช่นกัน

ด้านพล.ต.ต.วิสูตร ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลพญาไท ได้รับแจ้งและมีการร่วมชันสูตรพลิกศพของพ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิ่มรัตน์  อดีตผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม และมีความเห็นร่วมกันว่า เป็นการฆ่าตัวตาย และไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีอาญา พนักงานสอบสวนจึงได้ส่งสำนวนการเสียชีวิตไปยังอัยการแล้ว

...ผสข.ไลลา ลงสุวรรณ , บุศรินทร์ วรสมิทธิ์