หลังจากที่หลายหน่วยงานร่วมตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินให้ชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เป็นรายจังหวัด และประสานขอให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ส่งรายชื่อเกษตรกรที่ได้รับเงินจากโครงการไปแล้ว นายสุรพงศ์ นิลพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าวว่า ได้จัดส่งรายชื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ไปแล้ว 1 ล้านราย คิดเป็นเงินกว่า 10,000 ล้านบาท จากรายชื่อผู้มีสิทธิ์ 2.2 ล้านราย สำหรับการจ่ายเงินขณะนี้ได้ตรวจสอบระดับหนึ่งแล้ว จากเดิมกรมส่งเสริมการเกษตรส่งรายชื่อชาวนาตามฐานข้อมูลเดิมเข้ามา 2.8 ล้านราย เพื่อให้มีความถูกต้องในการจ่ายเงิน จึงมีการตรวจสอบข้อมูลซ้ำทุกราย ทำให้ข้อมูลการจ่ายเงินทยอยจัดส่งเข้ามา เพราะต้องรอผ่านกระบวนการจาก 5 ขั้นตอน เป็น 8 ขั้นตอนก่อนต้องมีการเซ็นรับรองทั้งระบบอำเภอและจังหวัด จึงยังไม่พบว่ามีการสวมสิทธิ์มารับเงิน ดีเอสไอและ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)คงตรวจสอบทั้งกระบวนการจ่ายเงินว่ามีความถูกต้องโปร่งใสหรือไม่ และเกษตรกรเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าวหรือมีการสวมสิทธิ์มารับเงิน หลังจากนี้คงต้องรอผลการตรวจสอบก่อนหากพบมีการจ่ายเงินไม่ถูกต้องจริง สตง.และดีเอสไอ คงแจ้งรายชื่อเกษตรเข้ามา ขณะที่ธ.ก.ส. พร้อมจะบล็อกบัญชีไว้ทันที เพื่อไม่ให้มีการถอนเงินออกไปกรณีที่ยังมีเงินฝากอยู่ในบัญชี แต่หากมีการถอนเงินออกไปใช้จ่ายแล้วก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย เพราะถือเป็นการโกงเงินหลวงและคงต้องเรียกเงินคืนมาเช่นเดียวกัน ด้านดีเอสไอ ระบุว่าจะลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่ที่สงสัยจะมีการทุจริต โดยให้ตั้งข้อสังเกตไปยังกลุ่มชาวนารายใหม่ ซึ่งมาขอขึ้นทะเบียนรับเงินค่าชดเชยหลังวันที่ 1 ตุลาคม 2557 และกลุ่มของผู้เช่านา โดยมองว่าอาจเกิดการทุจริตในโครงการนี้ได้ จึงต้องการป้องปรามไม่ให้มีโอกาสเกิดการทุจริตในโครงการจ่ายเงินชดเชยที่ใช้งบกว่า 40,000 ล้านบาท