ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 15 มกราคม 2563

15 มกราคม 2563, 20:08น.



กรมชลฯ น้อมนำศาสตร์พระราชา พัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำเลย



          นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี และ นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการเพื่อผลักดันให้โครงการต่างๆ ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้สามารถดำเนินการไปได้ตามแผนที่กำหนดในการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 1/2563 โดยมี นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมประชุม กรมชลประทาน สรุปเรื่องการดำเนินโครงการในการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำเลยทั้ง 8 โครงการ เพื่อเพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำให้กับราษฎรในพื้นที่ได้อย่างเพียงพอในอนาคต โดยน้อมนำศาสตร์พระราชามาดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยต้นน้ำใช้การตัดยอดน้ำเพื่อเก็บกักน้ำ กลางน้ำใช้การหน่วงน้ำ และปลายน้ำระบายออกสู่ลำน้ำโขง



          พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2520  ให้กรมชลประทาน พิจารณาวางโครงการชลประทานลุ่มแม่น้ำเลย โดยพิจารณาวางโครงการเขื่อนเก็บน้ำน้ำเลย (บ้านหัวกะโปะ) เขื่อนเก็บกักน้ำน้ำทบ (บ้านโพนงาม) และเขื่อนเก็บกักน้ำน้ำลาย (บ้านภูบ่อบิด) เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรในลุ่มน้ำเลย ทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง และมีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรพิจารณาสร้างฝายน้ำหรือเขื่อนทดน้ำตามความเหมาะสมในลำน้ำเลยตอนล่าง เพื่อส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกผืนใหญ่สองฝั่งแม่น้ำเลย ในเขตอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย มีพื้นที่ลุ่มน้ำ 3,890 ตารางกิโลเมตร มีแม่น้ำสายสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเหือง แม่น้ำพอง และแม่น้ำเลย ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ย 1,153 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่มีแหล่งเก็บกักน้ำความจุรวมเพียง 85.42 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 7.41 ของปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยเท่านั้น โดยน้ำส่วนที่เหลือถูกปล่อยให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขง



เตือนพรุ่งนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงสุดในรอบเดือน



          พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กหลังจากที่กรมควบคุมมลพิษ เตือนว่า พรุ่งนี้ (16 ม.ค.2563)ค่าฝุ่นละอองอาจพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศปิดมากที่สุดในรอบเดือนนี้ โดยเฉพาะช่วงเย็นที่การจราจรหนาแน่น ซึ่งจะมีการสะสมของฝุ่นและมลพิษสูงต้องระวังเป็นพิเศษ ปัญหาฝุ่นละออง ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนนี้ ขณะที่ กทม. กำชับการปฏิบัติมาตรการป้องกันและบรรเทาปัญหาฝุ่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดทีมแพทย์ และสาธารณสุข ลงพื้นที่แนะนำวิธีป้องกันฝุ่น และให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพของประชาชน พร้อมทั้งกำชับโรงเรียนให้แจ้งเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กสวมหน้ากากอนามัย



สศช.ชี้แจงหนี้ครัวเรือน อยู่ในระดับสูง แต่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง



          ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประจำเดือนธ.ค.2562 แม้รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากขึ้น แต่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะโฆษกสำนักงานฯ เปิดเผยว่า สาเหตุมาจากภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง คิดเป็นร้อยละ 78.7 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชนอาจทำให้ประชาชนเกิดความกังวล สศช.นำเสนอสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไตรมาส 2 ปี 2562 มีมูลค่า 13.08 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.8 ชะลอลงจากร้อยละ 6.3 เมื่อช่วงไตรมาสก่อนของปีที่แล้ว เนื่องจากการชะลอตัวของสินเชื่อเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์และรถยนต์ เมื่อพิจารณาสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อจีดีพีพบว่ามีแนวโน้มทรงตัว จากสัดส่วนสูงสุดเมื่อปี 2558 ร้อยละ 80.8 ลดลงมาที่ร้อยละ 79.3 ในปี 2559 และร้อยละ 78.05 ในปี 2560



          รายงานนโยบายการเงินเดือนธ.ค.2562 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)พบว่าไตรมาส 2 ปี 2562 ร้อยละ 58.8 ของหนี้สินครัวเรือนไทยทั้งหมดเป็นการกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ยานยนต์ และเพื่อประกอบธุรกิจ โดยมีสัดส่วนสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยร้อยละ 24.4 สินเชื่อยานยนต์ร้อยละ 17.1 และสินเชื่อเพื่อธุรกิจร้อยละ 17.0 ส่วนสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลมีสัดส่วนร้อยละ 41.5 ของสินเชื่อครัวเรือนทั้งหมด



หุ้นไทย-ต่างประเทศ ลดลงจากข่าวสหรัฐฯจะไม่ลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน



          หุ้นไทย ปิดตลาดที่ 1,581.05 จุด ลดลง 5.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 65,404.07 ล้านบาท นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยพักตัวเช่นเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ภายหลังจากที่ได้รับรู้การลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ไปในระดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับยังมีกระแสข่าวเรื่องสหรัฐฯจะไม่ลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติม จนกว่าหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯไปแล้ว ทำให้ตลาดถอดความหวังบ้าง และมองว่าการเจรจาการค้ายังยืดเยื้ออยู่ นักลงทุนจึงเลือกที่จะลดความเสี่ยงก่อนระหว่างรอดูรายละเอียดข้อตกลงการค้า



          แนวโน้มวันที่ 16 ม.ค.ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ในช่วงที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ และยังอยู่ในช่วงบริษัทจดทะเบียนรายงานผลประกอบการ ให้ติดตามการประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ โดยต้องดูหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะเพิ่มขึ้นหรือไม่ และคุณภาพสินทรัพย์เป็นอย่างไร




          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ลดลง 108.59 จุด ปิดที่ 23,916.58 จุด โดยถูกกดดันจากการที่สื่อรายงานว่า ภาษีนำเข้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่สหรัฐฯเรียกเก็บจากจีนในปัจจุบันจะยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพ.ย.ปีนี้ จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 111.55 จุด ปิดที่ 28,773.59 จุด




น้ำมันกลุ่มดีเซลทุกชนิดลดลง 40 สต.ต่อลิตร



         PTT Station และ บางจาก ประกาศปรับลดราคาน้ำมันเฉพาะกลุ่มดีเซล 40 สตางค์ต่อลิตร ส่วนกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดราคาคงเดิม มีผลวันพรุ่งนี้ (16 ม.ค. 2563) ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป  สำหรับราคาใหม่มีดังนี้ GSH 95S อยู่ที่ 26.75 สตางค์ต่อลิตร GSH 91S อยู่ที่ 26.48 สตางค์ต่อลิตร GSH E20S อยู่ที่ 23.74 สตางค์ต่อลิตร GSH E85S อยู่ที่ 19.69 สตางค์ต่อลิตร Hi Diesel B20S อยู่ที่ 24.49 สตางค์ต่อลิตร Hi Diesel B10 อยู่ที่ 25.49 สตางค์ต่อลิตร Hi Diesel S อยู่ที่ 27.49 สตางค์ต่อลิตร Hi Premium Diesel S อยู่ที่ 31.36 สตางค์ต่อลิตร (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม.)



ม้าและโคถูกฝังกลบด้วยเถ้าถ่านภูเขาไฟตาอัล ในฟิลิปปินส์



          ซีเอ็นเอ็น รายงานว่าภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุภูเขาไฟตาอัล บนเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์ ที่ปะทุขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย เถ้าถ่านจากภูเขาไฟไหลลงจากปล่องภูเขาไฟฝังกลบบ้านเรือนและต้นไม้ในพื้นที่ที่อยู่ด้านล่าง นอกจากนี้สัตว์เลี้ยง เช่น ม้าและโคหลายตัวที่ไม่สามารถหนีออกจากบริเวณนั้นถูกเถ้าถ่านฝังกลบ หรือถูกเถ้าถ่านที่ไหลลงจากภูเขาเหมือนลำธารซัดลงไปในทะเลสาบที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกัน ชาวบ้านบางคน โดยเฉพาะกลุ่มที่อาศัยอยู่บริเวณเนินเขาไม่ฟังคำเตือนของรัฐบาลที่เตือนให้พวกเขาอพยพไปให้ไกลจากภูเขาไฟ เนื่องจากเป็นห่วงสัตว์เลี้ยง เช่น หมู ม้า โค และ นกหลายตัว



          ด้านสถาบันแผ่นดินไหวและภูเขาไฟวิทยาฟิลิปปินส์ ระบุว่า ยังคงเตือนภัยอยู่ที่ระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ ชี้ว่า มีโอกาสจะเกิดการปะทุหนักขึ้นอีกในช่วง 2-3 วันข้างหน้า มีการอพยพชาวบ้าน 44,000 คนในจังหวัดบาตังกัสและจังหวัดคาวิเต ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 217 แห่ง ตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น คาดว่า ตัวเลขผู้อพยพจริงอาจจะสูงกว่านี้ เนื่องจากหลายคนเลือกที่ไปพักอาศัยกับครอบครัวหรือญาติ



CR:ภาพกรุงเทพมหานคร 




 

ข่าวทั้งหมด

X