สตช. ยืนยัน การโยกย้าย 'พ.ต.อ.ไพรัตน์' เนื่องจากได้รับการร้องเรียนพฤติกรรมหลายครั้ง

          หลังพ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 อดีตรองผู้บังคับการจังหวัดเพชรบุรี ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 กรณีใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม

          พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผู้บังคับการทะเบียนพล พร้อมด้วยพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าการโยกย้ายทุกครั้งเป็นไปตามระเบียบของการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่ผ่านมาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและพ.ต.อ.ไพรัตน์ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว การโยกย้ายจะพิจารณาจากข้อมูลที่ต้นสังกัดส่งมา และเนื่องจากพ.ต.อ.ไพรัตน์เคยถูกร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายประการตั้งแต่ปี 2544 เช่น เรี่ยไรเงินและขายบัตรคอนเสิร์ตโดยแอบอ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงพิจารณาให้มีการปรับย้ายไปในตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับประชาชน ซึ่งหากพ.ต.อ.ไพรัตน์มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถเข้ามารับฟังการชี้แจงจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ แต่หลังจากมีคำสั่งแต่งตั้งออกไป ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม และรายงานตัววันที่ 16 ธันวาคม เหตุใด พ.ต.อ.ไพรัตน์จึงปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานกว่า 1 เดือนและเพิ่งจะออกมาเคลื่อนไหวร้องเรียนผ่านสื่อ จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีการรอสัญญาณจากใครหรือไม่

          โดยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2562 มีข้าราชการตำรวจต้องโยกย้ายจากตำแหน่งเดิมกว่า 2,500 นาย มีตำรวจที่มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเข้ามาขอคำชี้แจงจากผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติไม่ถึง 10 นาย ซึ่งได้ชี้แจงและเยียวยาไปแล้ว แต่ทำไมพ.ต.อ.ไพรัตน์จึงออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ และไม่พูดถึงเรื่องที่เคยถูกร้องเรียนด้วย ขณะที่มีบางสื่อพยายามโยงกรณีนี้เกี่ยวข้องกับกรณีของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงขอว่าอย่าพยายามไปโยง เพราะการนำเสนอข่าวที่บิดเบือน ทำให้สังคมเกิดความสับสนได้

...