สทนช.สำรวจหมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำ ประสานกปภ.เร่งช่วยเหลือ

           มาตรการรับมือแม่น้ำโขงที่แห้งเพื่อไม่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลาง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำงบไปขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลที่อยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อนำน้ำมาเติมให้หมู่บ้านที่ขาดน้ำอุปโภค-บริโภค โดยตอนนี้อยู่ระหว่างสำรวจหมู่บ้านที่ขาดน้ำ ส่วนพื้นที่ที่อยู่ในการรับผิดชอบของการประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) กปภ.ก็มีแผนนำน้ำมาเสริมให้ ส่วนการแก้ปัญหาแม่น้ำโขงระยะยาวจะเป็นการประสานกันระหว่างประเทศในด้านข้อมูล โดยสทนช.ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการลุ่มน้ำโขงและเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ จะศึกษาสภาพแม่น้ำโขงในช่วงเวลาเดียวกันนี้ในอดีตที่แม่น้ำเป็นปกติว่าเป็นอย่างไรแล้วจะนำข้อมูลที่ได้ส่งให้จีนเพื่อขอให้จีนปล่อยน้ำออกมาเพื่อให้มีน้ำไว้รักษาระบบนิเวศ และให้ประชาชนในพื้นที่ได้อุปโภค-บริโภค

           นายสำเริง ยอมรับว่า การปลูกข้าวที่ตอนนี้ทั่วประเทศมีการทำอยู่ 3,800,000 ไร่ ส่งผลกระทบต่อน้ำอุปโภค-บริโภคของประชาชนพอสมควร เนื่องจากน้ำที่ใช้ทำกิจกรรมทั้งสองมาจากที่เดียวกัน โดยเฉพาะในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตอนนี้มีการปลูกข้าวถึง 3,200,000 ไร่ จนส่งผลให้มีการใช้น้ำจนน้ำลดลงแล้วน้ำเค็มรุกเข้ามาและต้องนำน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาผันเข้าคลองพระยาบันลือเพื่อส่งต่อไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อดันน้ำเค็มออกไป โดยตอนนี้คลองพระยาบันลือวางแผนเพิ่มการสูบน้ำมาแม่น้ำเจ้าพระยาเป็น 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และการประปานครหลวงจะนำน้ำมาเสริมในแม่น้ำเจ้าพระยาอีก 10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อผลักดันน้ำเค็มมากขึ้น พร้อมระบุว่าพื้นที่ปลูกข้าวบางส่วนที่ต้องใช้น้ำเสี่ยงจะเกิดความเสียหาย  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยขอความร่วมมือมาแล้วว่าไม่ให้ปลูกข้าว ส่วนการจ่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคตอนนี้ทุกพื้นที่จ่ายน้ำตามปกติแล้ว หลังก่อนหน้านี้บางพื้นที่มีการหยุดผลิตน้ำและจ่ายน้ำเป็นบางเวลา