ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2563

PM 2.5 เช้านี้ มีผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่า 10จุด  

          ข้อมูลจากแอปพลิเคชัน Air Visual ระบุว่า สภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ตามมาตรฐาน US AQI อยู่ที่ 185 เทียบเท่าค่าPM 2.5 ที่ 119.9 ไมโคกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดอันดับที่ 3 ของเมืองที่มีคุณภาพอากาศ แย่ที่สุดในโลก  เมื่อเทียบกับข้อมูลเมื่อวันอังคารที่ 7 ม.ค. ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันพบว่า สภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ติดอันดับที่ 9 ของเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก ซึ่งในช่วงเวลาเพียง 1 วัน คุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครอยู่ในขั้นวิกฤติรุนแรง โดยขยับขึ้นติดอันดับคุณภาพอากาศแย่แบบก้าวกระโดดถึง 6 อันดับ ประชาชนจึงควรตื่นตัวให้ความสำคัญและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เตรียมรณรงค์สร้างความตระหนัก ป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง เตรียมพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข ให้บริการประชาชน ให้ความรู้ในการป้องกันและดูแลตนเอง เฝ้าระวังติดตามเป็นพิเศษในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง เด็ก ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด และหญิงตั้งครรภ์ ออกหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ 

          สถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM_2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 49 - 74 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) เกินมาตรฐานที่บริเวณแขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ, ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ, แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ, แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ, แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ, ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ, ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ, ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ, ริมถนนดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ, แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ, ต.นครปฐม อ.เมือง นครปฐม, ต.บางกรวย อ.บางกรวย นนทบุรี, ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด นนทบุรี, ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ปทุมธานี, ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง สมุทรปราการ, ต.บางโปรง อ.เมือง สมุทรปราการ, ต.ตลาด อ.พระประแดง สมุทรปราการ, ต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ, ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง สมุทรปราการ, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร, ต.มหาชัย อ.เมือง สมุทรสาคร

กรมฝนหลวงฯ ส่งหน่วยฝนหลวง 3 ลำช่วยเพิ่มน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก

          นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวง เปิดเผยว่า ได้รายงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เรื่องการตัดสินใจส่งหน่วยฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว 3 ลำ ไปทำฝนหลวงที่ภาคตะวันออก โดยเน้นช่วยเหลือพื้นที่เกษตร เติมน้ำอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำใช้การได้น้อยระดับเฝ้าระวังต่ำกว่าร้อยละ 30 คือ อ่างขนาดใหญ่ อ่างดอกกราย อ่างหนองปลาไหล อ่างคลองสียัด และอ่างขนาดกลางหลายแห่ง ในพื้นที่ภาคตะวันออก ประสบภัยแล้งแล้ว เช่น จ.จันทบุรี ตราด ระยอง เป็นต้น ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรที่ร้องขอฝนหลวง ทั้งนี้ จะเปิดปฏิบัติการหน่วยบินฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.ถึงวันที่ 15 ม.ค. เนื่องจาก ตรวจสอบสภาพเอื้อต่อการทำฝนหลวง วันที่ 9 ม.ค. ร.อ.ธรรมนัส จะเดินทางไปดูการซ่อมบำรุงเครื่องบินฝนหลวง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สนามบินฝนหลวง จ.นครสวรรค์ และให้นโยบายแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง

กปน.-กรมชลฯ ปฏิบัติการดันน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา

         การแก้ปัญหาน้ำประปามีรสชาติผิดปกติในพื้นที่กรุงเทพฯ นายรักษ์ศักดิ์ สุริยหาร รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.)ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25-26 ธ.ค.2562 กรมชลประทาน และ กปน.ดำเนินการทดลองกระแทกลิ่มความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา โดย กปน. หยุดการสูบน้ำดิบเข้าคลองประปาในช่วงเวลาที่น้ำเริ่มลง เป็นเวลา 2 ชม. ขณะที่ กรมชลประทาน ปรับแผนการระบายน้ำจากเขื่อนพระรามหก จาก 5 เป็น 15 ลบ.ม. ต่อวินาที รวมทั้งเปิดประตูน้ำคลองลัดโพธิ์ในช่วงน้ำลง เพื่อเร่งการเคลื่อนตัวของน้ำให้ลงเร็วขึ้น และปิดในช่วงเวลาน้ำขึ้น เพื่อชะลอการหนุนของน้ำให้ช้าลง ผลการปฏิบัติการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างดี มวลน้ำที่ระบายออกมาสามารถผลักดันลิ่มความเค็มจากน้ำทะเลหนุนสูง ให้ไกลจากสถานีสูบน้ำดิบสำแล จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นจุดรับน้ำดิบของ กปน. ถึง 5-6 กม.

          จากการคาดการณ์ของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ในวันที่ 13-14 ม.ค.จะเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงสุด กรมชลประทาน และ กปน. จึงจะเริ่มปฏิบัติการดังกล่าวอีกครั้ง ตั้งแต่คืนวันที่ 9 ม.ค.จนถึงเช้ามืดวันที่ 13 ม.ค. เพื่อเตรียมรับมือและบรรเทาผลกระทบและคาดว่าภาวะน้ำทะเลหนุนสูงสุดจะเกิดอีกครั้ง ประมาณวันที่ 26-27 ม.ค.

สภาฯเห็นชอบผ่านงบฯกลางกว่า 5 แสนล้าน

          การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระสอง ลงมติ เรียงลำดับมาตรา ภาพรวมตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ กรรมาธิการและสมาชิกสลับอภิปรายอย่างเข้มข้น ขณะที่ฝ่ายค้าน เน้นประเด็นเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม,งบประมาณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, งบกลาง, การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ

          ในช่วงพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ มาตรา 6 ซึ่งเป็นเรื่องงบกลาง  518,770 ล้านบาท กมธ.เสียงข้างน้อย และ ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่สงวนความเห็นและสงวนคำแปรญัตติหลายคน อภิปรายขอปรับลดเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจากที่ตั้งไว้ 96,000 ล้านบาท ลงเหลือ 56,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นวงเงินที่สูงเกินความจำเป็นรวมถึงขอตัดงบกลาง 20,000 ล้านบาท เพราะกังวลรัฐบาลอาจใช้ผิดวัตถุประสงค์ ภายหลังการอภิปรายมาตรา 6 ครบถ้วน ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับกมธ.ไม่มีการแก้ไขรายละเอียดมาตรา 6 เกี่ยวกับงบกลางด้วยคะแนน 239 ต่อ 78 งดออกเสียง 148 เสียง

น้ำมันโลก-ทองคำลดลง ด้านหุ้นสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น หลังทรัมป์ แถลงไม่ใช้แสนยานุภาพทางทหาร

         ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 3.09 ปิดที่ 59.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 2.83 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดน้ำมัน ดีดตัวขึ้นหลังอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพ 2 แห่งในอิรัก ซึ่งมีทหารสหรัฐฯประจำการอยู่ แก้แค้นให้ พล.ต.กัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษกุดส์ของอิหร่านที่เสียชีวิตในปฏิบัติการโดรนโจมตีของสหรัฐฯในอิรักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  อย่างไรก็ตาม จากคำแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ สยบความกังวลว่าสหรัฐฯอาจทำสงครามกับอิหร่าน โดยบอกว่าสหรัฐฯไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้แสนยานุภาพทางทหารกับอิหร่าน พร้อมระบุอิหร่านหยุดการโจมตีแล้ว และสหรัฐฯเลือกหนทางแห่งการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม

          นอกจากนี้แล้ว คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค.เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล หลังลดลงมา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ขณะที่ นักวิเคราะห์ คาดหมายว่าน่าจะลดลงราว 3.7 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกัน ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สต๊อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นถึง 9.1 ล้านบาร์เรลและคลังสำรองน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล

          ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นพอสมควร ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 161.41 จุด  ปิดที่ 28,745.09 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.87 จุด ปิดที่ 3,253.05 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 60.66 จุด ปิดที่ 9,129.24 จุด ล่าสุด ท่าทีของนายทรัมป์ สอดคล้องกับจุดยืนของอิหร่าน กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน เน้นย้ำว่า อิหร่านไม่ต้องการกระพือสถานการณ์ความตึงเครียดให้ลุกลามบานปลาย

          ความกังวลที่ผ่อนคลายลงในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและฉุดราคาทองคำปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 11 วัน ในวันพุธ  ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 14.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,560.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

CR:กรุงเทพมหานคร