ศาลญี่ปุ่นเริ่มการพิจารณาคดีฆาตกรรม 19 ศพที่เกิดขึ้นในบ้านพักผู้พิการในเมืองซางามิฮาระ นอกกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมปีที่แล้ว ผู้ถูกกล่าวหาคือนายซาโตชิ อุเอมัตสึ อายุ 29 ปีเป็นอดีตพนักงานของบ้านพักผู้พิการแห่งนี้ รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริงและต้องการฆ่าผู้พิการทุกคน แต่ทนายความของเขาขอบรรเทาโทษโดยอ้างถึงการเป็นผู้บกพร่องทางจิต โดยคาดว่าศาลจะมีคำพิพากษาในวันที่ 16 มีนาคมนี้
โดยในปีที่แล้ว ระหว่างที่นายอุเอมัตสึทำงานอยู่ เขาบอกกับเพื่อนร่วมงานว่าต้องการฆ่าผู้พิการทุกคนในบ้านพัก ทำให้ผู้บริหารสั่งพักงานแล้วส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่อีก 12 วันถัดมาแพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาลเนื่องจากเห็นว่าเขาไม่มีพฤติกรรมเป็นอันตราย แต่ทางผู้บริหารบ้านพักไม่วางใจ จึงให้เขาออกจากงาน จนมาถึงวันที่เกิดเหตุ (26 ก.ค. 62) นายอุเอมัตสึบุกรุกเข้าไปภายในบ้านพักแล้วใช้มีดสังหารผู้ที่อยู่ในห้องต่าง ๆ ทีละห้อง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 คน และบาดเจ็บ 26 คน หลังจากนั้นเขาก็เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจพร้อมนำมีดที่เป็นอาวุธในการก่อเหตุไปให้ตำรวจ
อัยการญี่ปุ่นส่งฟ้อง 6 ข้อหารวมถึงคดีฆาตกรรม ที่อาจทำให้เขาถูกลงโทษสูงสุดคือประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ถูกจับกุมตัวนายอุเอมัตสึไม่แสดงความเสียใจ ทั้งเห็นว่าผู้พิการเหล่านี้ไม่มีหัวใจ มีชีวิตที่ไม่มีประโยชน์ ที่เขาทำไปก็เพื่อประโยชน์ของสังคม และเห็นว่า แม้เขาจะทำผิดฐานฆาตกรรม แต่ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุให้ถูกลงโทษประหารชีวิต ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นที่ทนายความนำมาเป็นข้ออ้างบรรเทาโทษ เพราะแสดงให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามีความบกพร่องไม่สามารถแยกแยะถูกหรือผิด ทั้งผลการตรวจยังพบว่าเขาเสพกัญชาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุด้วย
....