ผอ.ศูนย์มุสลิมศึกษา แนะไทยวางตัวเป็นกลางสถานการณ์อิหร่าน-สหรัฐฯ เชื่อไม่บานปลายถึงสงครามโลก

         สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่านในขณะนี้ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสนอความเห็นว่า ไทยควรระวังการแสดงท่าทีในเรื่องนี้ โดยควรวางตัวเป็นกลางและเรียกร้องให้เกิดการเจรจา ส่วนผลกระทบต่อไทยคงมีแค่เรื่องราคาน้ำมันที่จะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะหากอิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซที่เป็นทางผ่านเข้า-ออกของเรือบรรทุกน้ำมันที่น้ำมันกว่าร้อยละ 35 ของโลกต้องใช้ช่องแคบนี้, ต้องระวังกลุ่มติดอาวุธที่ฝักใฝ่อิหร่านที่อิหร่านอาจควบคุมไม่ได้และกลุ่มติดอาวุธจะใช้โอกาสนี้ทำลายสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด เพราะจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโลก รวมถึงความเครียดของประชาชนที่ควรเข้าใจว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ พร้อมมองว่า ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังทำสงครามจิตวิทยาระหว่างกัน และสงครามที่จะเกิดขึ้นมีโอกาสเป็นได้หลายรูปแบบ โดยสงครามที่จะเกิดขึ้นแน่ๆคือสงครามตัวแทนที่อิหร่านจะใช้กลุ่มติดอาวุธที่ฝักใฝ่ตัวเองและไม่ชอบสหรัฐฯเป็นผู้รบแทนโดยสนามรบคงจำกัดอยู่แค่ที่ประเทศอิรักหรืออย่างมากก็พัฒนาเป็นสงครามอ่าวเปอร์เซียรอบใหม่ แต่เชื่อว่าทั้งคู่จะไม่ใช้สงครามเต็มรูปแบบและคงไม่พัฒนาเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 เว้นเสียจากว่าอิหร่านจะตอบโต้สหรัฐฯอย่างรุนแรงจนทำให้สหรัฐฯตัดสินใจยิงอาวุธหนักกลับ สาเหตุที่เชื่อว่าจะไม่พัฒนาเป็นสงครามโลก เพราะมีหลายปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยทั้งจากฝั่งสหรัฐฯที่รู้ดีว่ายากที่จะชนะในสงครามนี้ประกอบกับอีกไม่นานสหรัฐฯจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็คงกลัวเสียคะแนนนิยมหากมีทหารเสียชีวิตในสงคราม ส่วนอิหร่านเองก็มีปัญหาเศรษฐกิจในประเทศประกอบกับความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ขณะที่ชาติมหาอำนาจอื่นๆต่างก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่ต้องการทำสงคราม

         ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายถึงสงครามที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบอื่นว่าอาจเป็นได้ในหลายสงคราม ทั้งสงครามไซเบอร์ หรือการใช้การเครื่องมือที่มีอยู่มาข่มขู่อีกฝ่ายเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ตัวเองได้เปรียบ โดยเฉพาะที่อิหร่านมีช่องแคบฮอร์มุซ พร้อมชี้ว่าสิ่งที่อิหร่านต้องการในสงครามครั้งนี้คือการไล่สหรัฐฯออกไปจากอิรัก เพื่อขยายเขตอำนาจอิทธิพลในตะวันออกกลาง(Land Corridor) ของตัวเอง โดยอิหร่านมีเป้าขยายอำนาจเข้าไปยังอิรัก,ซีเรียและเลบานอน ซึ่งสหรัฐฯก็คงไม่ยอมถอนกำลังออกจากอิรักแน่ เพราะลงทุนไปจำนวนมากทั้งยังต้องการมีอำนาจในอิรักและในภูมิภาคตะวันออกกลางอยู่