ชาวสวนทุเรียน นนทบุรีปิดคลองกั้นน้ำเค็ม อบต.เตรียมประชุมกับจังหวัดพรุ่งนี้

         ปีนี้ภัยแล้งมาเร็ว ทำให้น้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาและบางพื้นที่เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคประชาชนแล้ว น.ส.สุวรรณา โล้สมบูรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ค่าความเค็มของน้ำในคลองอ้อมและคลองบางกอกน้อยที่อยู่ในพื้นที่เมื่อเช้านี้ (7 ม.ค.) อยู่ที่ 3.45 ppm ซึ่งเกินค่ามาตรฐานในการนำน้ำมาปลูกทุเรียนที่กำหนดไว้ที่ 3 ppm แล้ว ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนไม่สามารถใช้น้ำจากคลองทั้ง 2 สายได้ และต้องปิดบ่อเพื่อไม่ให้น้ำเข้ามาในสวนแล้วหันมาใช้น้ำประปาในการปลูกทุเรียนแทน เพราะกลัวว่าน้ำเค็มจากคลองจะส่งผลต่อทุเรียน ส่วนเกษตรกรที่ปลูกกล้วยไม้และทำการเกษตรอื่นยังพอใช้น้ำประปาได้ พร้อมรับว่าปีนี้ฤดูแล้งและปัญหาน้ำเค็มมาเร็วกว่าปกติที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งทุกปี อบต.จะแก้ด้วยการขนน้ำประปาไปช่วยเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนเช่นเดียวกับปีนี้ที่คงต้องทำเช่นกันเพียงแต่ยังไม่ได้กำหนดวันส่งน้ำ โดยวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00น. จังหวัดได้นัดประชุมกับอบต.เพื่อหามาตรการแก้ปัญหาน้ำเค็มในพื้นที่ ส่วนน้ำประปายังใช้อุปโภค-บริโภคได้ปกติ เพราะยังไม่ได้รับผลกระทบเรื่องความเค็ม

         ด้านพื้นที่จ.ปทุมธานี ที่อยู่ใกล้กับสถานีสูบน้ำสำแลที่มีปัญหาน้ำเค็มหนุนเข้ามาเช่นกัน นางหรรษา จั่นเพชร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.บ้านกระแชง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เล่าว่า ตอนนี้ประชาชนในพื้นที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากในส่วนของน้ำอุปโภคบริโภคประชาชนใช้น้ำบาดาลและน้ำตามร้านสะดวกซื้อเป็นหลัก ส่วนการประกอบอาชีพของประชาชนในพื้นที่ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะส่วนมากทำงานในภาคอุตสาหกรรม มีเพียงแค่ 10 หลังคาเรือนที่ทำนา ซึ่งก็ยังทำนาได้ตามปกติไม่ได้รับผลกระทบ เพราะยังมีน้ำพอใช้

...

แฟ้มภาพ