ญี่ปุ่น กำชับการตรวจสัมภาระให้เข้มงวดขึ้น พร้อมเผยขั้นตอนการหลบหนีของ‘คาร์ลอส กอสน์’

          เอเอฟพี รายงานอ้าง นางมาซาโกะ โมริ รัฐมนตรียุติธรรมของญี่ปุ่น เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์นิปปอน เทเลวิชชัน เน็ตเวิร์ต(เอ็นทีวี)ของญี่ปุ่น กำชับหน่วยงานดูแลชายแดนของญี่ปุ่นให้ตรวจสัมภาระของผู้โดยสารให้ละเอียดมากขึ้น หลังจากมีรายงานทางสื่อท้องถิ่นเรื่องวิธีการที่นายคาร์ลอส กอสน์ วัย 65 ปี อดีตประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของญี่ปุ่น ทำผิดข้อตกลงปล่อยตัวชั่วคราว หลบหนีออกจากญี่ปุ่นไปยังเลบานอน ทั้งนี้ นายกอส์น ถูกดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับการเงินหลายข้อหา แต่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

          พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการนำข้อมูลต่างๆมาตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อให้ทราบรายละเอียดเรื่องวิธีการหลบหนี แหล่งข่าวพนักงานสอบสวน ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2562 นายกอส์นได้ขึ้นรถไฟความเร็วสูงจากสถานีชินางาวะในกรุงโตเกียว จากนั้นเมื่อเวลา 19.30 น.ได้ลงจากรถไฟที่สถานีแห่งหนึ่งทางตะวันตกของเมืองโอซาก้าและนั่งรถแท็กซี่ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้กับสนามบินนานาชาติคันไซ ซึ่งพนักงานสอบสวนของญี่ปุ่น เชื่อว่า เขาเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวมุ่งหน้าไปที่เมืองอิสตันบูล ของตุรกี ก่อนเปลี่ยนเครื่องบินอีกลำหนึ่งและเดินทางมุ่งหน้าไปที่กรุงเบรุตของเลบานอน

         ด้านหนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นาลของสหรัฐฯรายงานอ้างแหล่งข่าวพนักงานสอบสวนตุรกีว่า นายกอส์น ซุกตัวอยู่ในลังใหญ่ใบหนึ่งสำหรับบรรจุเครื่องเสียง ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของห้องโดยสารของเครื่องบินส่วนตัวดังกล่าวซึ่งบินจากเมืองโอซาก้าไปยังอิสตันบูล รายงานระบุว่า มีการเจาะช่องใต้ลังสินค้า เพื่อให้นายกอส์นมีช่องหายใจ

         ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่น ยอมรับว่ามีช่องโหว่ของกฎระเบียบในการตรวจสัมภาระต่างๆ สำหรับกรณีเครื่องบินส่วนตัวเจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นต้องดำเนินการ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเครื่องบินส่วนตัวจะใช้ดุลพินิจเองว่าควรตรวจหรือไม่ ขณะที่ สายการบินพาณิชย์ทั่วไปต้องดำเนินการตรวจสัมภาระอย่างละเอียดตามกฎหมายการบินพลเรือนของญี่ปุ่น ทั้งนี้ นายกอส์น มี 3 สัญชาติคือฝรั่งเศส บราซิลและเลบานอน จึงสามารถใช้หนังสือเดินทางฝรั่งเศสเดินทางเข้าไปที่เลบานอนได้