รมว.พลังงาน ประชุมรับมือเหตุตึงเครียดสหรัฐฯ-อิหร่าน ยืนยันไม่ให้กระทบราคาพลังงาน

          การดูแลสถานการณ์ด้านพลังงานภายในประเทศรับมือเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ประชุมติดตามสถานการณ์ที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบสูงสุดในรอบ 14 เดือน และราคาน้ำมันดิบดูไบ ขยับขึ้นร้อยละ 4 หรือ 3 ดอลลาร์สหรัฐฯจนไปถึง 68-69 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ราคานี้ยังไม่ถึงกรอบที่กังวล แต่จะติดตามและปรับมาตรการ โดยกรอบราคาที่น่าเป็นห่วงคือ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงพลังงานจะบริหารจัดการ จัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีใช้อย่างต่อเนื่องและดูแลราคาไม่ให้เกิดความผันผวน ขณะนี้สถานะกองทุนน้ำมัน อยู่ที่ประมาณ 37,000 ล้านบาท และในวันศุกร์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

          ข้อมูลในวันนี้ ไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบประมาณ 2,988 ล้านลิตร ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่งอีก 1,144 ล้านลิตร น้ำมันสำเร็จรูป 1,468 ล้านลิตร รวมจำนวนวันที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ทั้งหมด 50 วัน ส่วนปริมาณสำรองก๊าซ LPG ทั้งหมดประมาณ 101 ล้านกิโลกรัม สำรองได้ 17 วันสำหรับใช้ในภาคครัวเรือน และมีการบริหารจัดการเพื่อกระจายความเสี่ยงระยะยาว กลุ่มปตท.ได้ปรับลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางที่ระดับร้อยละ 74 ปรับลดลงเหลือประมาณร้อยละ 50 ส่วนด้านการผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ปัจจุบันผลิตน้ำมันดิบได้ประมาณ 1.3 แสนบาร์เรล/วัน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะขอความร่วมมือในการงดส่งออกน้ำมันดิบซึ่งจะได้ปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้นประมาณ 25,000 บาร์เรล/วัน และหากมีเหตุฉุกเฉิน สามารถเพิ่มการผลิตภายในประเทศให้มากขึ้นอีก 36,000 บาร์เรล/วัน โดยจะขอความร่วมมือกับโรงกลั่นน้ำมันให้หาทางออกด้านเทคนิคเพื่อใช้น้ำมันดิบในประเทศทั้งหมดและจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

แฟ้มภาพ