รวบ 2 คนร้ายอ้างเป็นนักท่องเที่ยว วางยา-ชิงทรัพย์สาวไทยในหลายพื้นที่

04 มกราคม 2563, 11:56น.


        หลังเกิดเหตุคนร้ายตระเวนชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวด้วยพฤติกรรมชักชวนนักท่องเที่ยวสาวในสถานบันเทิง ไปดื่มกันต่อที่ห้องพักหรือโรงแรม ก่อนจะนำเครื่องดื่มพรุนสกัดที่ใส่ยานอนหลับมาให้ดื่ม ก่อนจะชิงทรัพย์และหลบหนีไป  ล่าสุด ตำรวจสน.ทองหล่อสามารถจับกุมนายวิชัย นฤมิตสิงขร และนายสมพร แสงสุวรรณ 2คนร้ายก่อเหตุ ได้ที่ซอยรัชดา17 โดยในวันนี้ พล.ต.ต.สามารถ ศรีศิริวิบูลย์ชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล5 เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเองที่สน.ทองหล่อ จาการตรวจสอบประวัติพบว่า คนร้ายก่อเหตุลักษณะนี้หลายครั้งในหลายพื้นที่ ทั้งย่านทองหล่อ คลองตัน พระโขนง รวมถึงในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิและบุรีรัมย์



           สำหรับคดีของพื้นที่สน.ทองหล่อ มีผู้เสียหายเป็นนักนักท่องเที่ยวสาวไทยเข้าแจ้งความไว้2 คดี คือ เมื่อวันที่ 22ธันวาคม 2562 ระบุว่า วันเกิดเหตุไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 22  และถูกคนร้ายทั้ง2คนแอบอ้างเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนชักชวนไปดื่มกินต่อที่โรงแรมแห่งหนึ่งละแวกนั้น จากนั้นให้ผู้เสียหายดื่มเครื่องดื่มพรุนสกัด ซึ่งเมื่อดื่มเข้าไป ผู้เสียหายไม่รู้สึกตัว ตื่นมาอีกทีพบว่าทรัพย์สินมีค่าเช่น เครื่องประดับ สร้อยคอทองคำ หายไป



            ส่วนอีกคดีเมื่อวันที่25ธันวาคม ก็ยังมีหญิงสาวชาวไทย2คนเข้าแจ้งความว่า ถูกชาย2คนอ้างตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน รู้จักกันในโรงเบียร์แห่งหนึ่งย่านพระราม3 และชวนกันไปต่อที่ห้องพักของผู้เสียย่านพระราม4  ซึ่งคนร้ายมีพฤติกรรมก่อเหตุเหมือนกับคดีแรก ลักทรัพย์ผู้เสียหายได้ทรัพย์สินไปรวมกว่า150,000บาท



             เบื้องต้น คนร้ายรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง จะเลือกเหยื่อที่มาเที่ยวตามสถานบันเทิงแต่งกายดูมีฐานะ ใส่เครื่องประดับมีค่า เมื่อเจอเหยื่อแล้วจะชวนไปดื่มกินต่อ จากนั้นจะนำยาอัลปราโซแลม (Alprazolam) หรือ ยาเสียสาว  มีลักษณะเป็นเม็ดสีม่วงนำมาบดผสมกับเครื่องดื่มประเภทพรุนสกัดที่จะมีสีคล้ายกัน กลิ่นคล้ายกัน  จากนั้นก็จะนำเหยื่อดื่ม  เมื่อผู้เสียหายง่วงหลับไป ก็จะลักทรัพย์สินไป  ก่อนจะนำไปทรัพย์สินไปฝากให้กับผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ยังหลบหนีอยู่ไปขาย และนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน



             ด้านผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า จากการตรวจสอบประวัติ 1 ในผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษคดีปล้นทรัพย์ได้เพียง 5-6 เดือน ก่อนมาก่อเหตุซ้ำ พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายที่เคยถูกกระทำลักษณะนี้ขอให้เข้าแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุ   และฝากเตือนภัยผู้หญิงที่ไปเที่ยวสถานบันเทิง หากพบบุคคลไม่รู้จักชักชวนให้ไปไหนต่อ  อย่าหลงเชื่อ เนื่องจากปัจจุบันมีการหลอกลวงหลายรูปแบบ จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป

ข่าวทั้งหมด

X