สทนช.ชี้ 14 เขื่อนใหญ่น้ำใช้ เหลือน้อยกว่าร้อยละ 30 เร่งรับมือภัยแล้ง

          การรับมือ สถานการณ์ภัยแล้ง นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ตอนนี้แหล่งน้ำต่างๆ ทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมกัน 49,789 ล้านลูกบาศก์เมตร ในจำนวนนี้เป็นน้ำใช้การได้ 25,714 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณน้ำใช้การได้กว่า 20,738 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง แต่ขณะเดียวกันเขื่อนขนาดใหญ่ 14 แห่งก็ประสบปัญหามีน้ำใช้การได้เหลือน้อยกว่าร้อยละ 30 เช่น เขื่อนภูมิพล, เขื่อนสิริกิติ์, เขื่อนจุฬาภรณ์ และเขื่อนอุบลรัตน์ ส่วนแหล่งน้ำขนาดกลางที่มีระบบติดตามได้ พบว่า มีอย่างน้อย 91 แห่งที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังน้ำน้อย ส่วนมากอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ตอนนี้หน่วยงานต่างๆ ได้ปรับแผนการทำงาน โดยเร่งหาแหล่งน้ำช่วยพื้นที่ต่างๆทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนและไม่กระทบต่อแผนการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้ง สทนช.จึงได้ติดตามแผนและผลการจัดสรรน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่เขตชลประทาน

          สำหรับผลการจัดสรรน้ำสะสมรายวันล่าสุดถึงเมื่อวานนี้(2 มกราคม พ.ศ.2563) พบว่า 2 จาก 4 ลุ่มน้ำสำคัญมีการจัดสรรน้ำเกินแผน คือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่จัดสรรน้ำไปแล้ว 1,398 ล้านลูกบาศก์เมตร เกินแผนไป 130 ล้านลูกบาศก์เมตร และลุ่มน้ำโขง ชี มูล ที่จัดสรรน้ำไปแล้ว 385 ล้านลูกบาศก์เมตร เกินแผน 6 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำภาคตะวันออก แม้ยังจัดสรรน้ำน้อยกว่าแผน แต่มีแนวโน้มว่าอนาคตอาจจัดสรรน้ำเกินแผน สทนช.จึงเน้นย้ำทุกหน่วยงานให้คำนึงถึงการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการรักษาระบบนิเวศเป็นหลักสำคัญ โดยเฉพาะการรักษาคุณภาพน้ำที่ค่าความเค็มน้ำด้านอุปโภคและบริโภคของแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ปากแม่น้ำจนถึงสถานีสำแล จ.ปทุมธานี ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ขณะที่คุณภาพน้ำด้านการเกษตรของแม่น้ำแม่กลองและเพชรบุรียังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางปะกงต้องเฝ้าระวังเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดกับพื้นที่การเกษตรด้วย ส่วนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน,กรมส่งเสริมการเกษตร และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ปรับแผนจัดสรรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลางแล้ว 25 แห่ง พร้อมเร่งรณรงค์และขอความร่วมมือให้ช่วยกันประหยัดน้ำ เพื่อให้น้ำมีพอตลอดฤดูแล้งนี้

           นายสำเริง ยืนยันว่า สทนช.จะบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งของหน่วยงานต่างๆ ภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เพื่อติดตามผลการแก้ไขปัญหาของทุกหน่วยงานและเพื่อติดตามสถานการณ์และคอยให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด