ความเคลื่อนไหวหลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้แบน 2 สาร คือ พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส และให้จำกัดการใช้สารไกลโฟเซต ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563
น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง หนึ่งในตัวแทนเครือข่ายต่อต้านการแบน 3 สารเคมี ยืนยันว่า กลุ่มไม่เห็นด้วยกับมติที่ออกมา แต่จะไม่นัดชุมนุมหรือประท้วง โดยจะใช้แนวทางอื่นแทน ซึ่งขณะนี้กลุ่มกำลังทำรายงานการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจในพืชเศรษฐกิจ(ไม้ผล 12 ชนิด) หากมีการยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 2 ชนิดนี้ ในรายงานจะแสดงผลตรวจสุขภาพของศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่คอยเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีต่างๆ ซึ่งศูนย์ฯยืนยันว่าไม่มีเกษตรกรได้รับผลกระทบทางสุขภาพหลังใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด โดยจะนำข้อมูลการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดที่ไม่ได้เป็นอันตรายมายืนยัน และในรายงานยังจะอธิบายถึงวิธีการปลูกพืชผักของเกษตรกรก่อนชี้ให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องใช้สารเคมีต่อไป คาดว่าเดือนเมษายนจะนำรายงานยื่นต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อให้ทบทวนมติใหม่นอกจากนั้นทางกลุ่มกำลังรอคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดหลังยื่นขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้สามารถใช้สารเคมีทั้ง 3 ได้ต่อไป แม้ว่าศาลปกครองกลางยกคำร้องไปแล้ว
ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง ยังเชื่อว่า การยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 มีการตั้งธงมาล่วงหน้าแล้ว เพราะหน่วยงานต่างๆไม่ยอมรับฟังความเห็นจากเกษตรกร และหากจะมีการยกเลิกก็ต้องหาสารเคมีชนิดใหม่มาทดแทนให้ได้ เพราะเกษตรกรจำเป็นต้องใช้ ถึงตอนนี้ก็ยังหาสารมาทดแทนไม่ได้ ทำให้เรื่องนี้จะกลายเป็นอีกปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อถึงกำหนดเวลาที่กรมวิชาการเกษตรต้องนำเสนอสารทดแทนใหม่ต่อที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย