เงินเฟ้อธันวาคม 62 สูงสุด 5 เดือน
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคหรือเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนธันวาคม 2562 ดัชนีอยู่ที่ 102.62 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.01 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.87 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม ของปี 2561 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันในอัตราสูงที่สุดในรอบ 5 เดือน หลังจากชะลอตัวลงต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2562 ส่วนค่าดัชนีเฉลี่ยทั้งปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.71 เมื่อเทียบกับปี 2561 ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานที่หักราคาอาหารสด และพลังงานออกจากการคำนวณในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 102.80 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.03 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.49 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมของปี 2561 ขณะที่อัตราเฉลี่ยทั้งปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.52 เมื่อเทียบกับปี 2561
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวด้วยว่ากรณีที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากนั้น หากมองในแง่ผู้บริโภคจะมีความพอใจ เพราะทำให้ราคาน้ำมันไม่สูงขึ้น ขณะที่วัตถุดิบนำเข้าเพื่อนำมาผลิตสินค้าในประเทศไม่สูงขึ้นด้วย จึงไม่มีแรงกดดันทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น แต่หากมองในแง่ผู้ผลิตและผู้ส่งออก จะทำให้รายได้จากการส่งออกลดลง ที่จะส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึงรายได้ของเกษตรกร ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ไม่มีผลทำให้ราคาสินค้าปรับขึ้น โดยกรมการค้าภายในแจ้งว่า ยังไม่มีผู้ผลิตสินค้ารายใดขอปรับขึ้นราคาขายสินค้าจากค่าแรงปรับขึ้น
ส.อ.ท.ชี้ธุรกิจหนีตายค่าเงินบาท
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนกำมีความกังวลต่อค่าเงินบาทที่หลุดกรอบ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2562 บวกกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-6 บาทต่อวัน แม้เป็นอัตราที่ปรับขึ้นไม่มากนัก แต่จะทำให้ธุรกิจที่แย่อยู่แล้วต้องปรับตัว ซึ่งหนึ่งในกลไกสำคัญคือการลดคนงาน ส.อ.ท.จึงต้องการให้หน่วยงานภาครัฐและธนาคารแห่งประเทศไทย ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่าเพื่อนบ้านในอาเซียน เพราะในปีที่แล้วเงินบาทแข็งค่าประมาณร้อยละ 7 ซึ่งเป็นการแข็งค่าที่สุดในสกุลเงินต่าง ๆของประเทศในอาเซียน ส่งผลให้การส่งออกของไทยมีมูลค่าลดลง นอกเหนือจากปัญหาสงครามการค้า
อย่างไรก็ตาม นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันที่ 2 มกราคม ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง แต่ยังมีความผันผวนสูง ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงดูแลการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง มองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถดูแลค่าเงินให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ผ่อนปรนเกณฑ์หลายข้อเพื่อช่วยเหลือแล้ว และปีนี้หากผลักดันให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ได้คาดว่าจะทำให้ค่าเงินมีเสถียรภาพมากขึ้น
คลังแจกรางวัล 'ชิม ช้อป ใช้' วันนี้
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ "ชิม ช้อป ใช้" ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีการใช้จ่ายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยตัวเลข ณ วันที่ 1 มกราคม 2563 มียอดรวมทั้งสิ้น 26,981.9 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดการใช้จ่ายผ่าน G-Wallet 1 จำนวน 11,650.9 ล้านบาท และ G-Wallet 2 จำนวน 15,330.9 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายร้านชิม 4,536.1 ล้านบาท ร้านช้อป 18,691.3 ล้านบาท ร้านใช้ 268.5 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 3,282.6 ล้านบาท และโรงแรม 153.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกระจายรายได้ลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก ตรงตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่วางไว้อย่างแท้จริง
วันนี้ (3 ม.ค.) ที่กระทรวงการคลังจะมีการจับรางวัลของสมนาคุณครั้งที่ 2 รวม 169 รางวัล ซึ่งจะเป็นผู้ใช้จ่ายผ่าน G-Wallet 2 ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน-31 ธันวาคม 2562 และผู้ที่ใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 16-31 ธันวาคม 2562 ส่วนร้านค้าก็มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลเช่นกัน สามารถตรวจสอบจำนวนวงเงินการใช้จ่าย จำนวนสิทธิ์ที่จะได้เข้าร่วมลุ้นรับรางวัล หมายเลขสิทธิ์ฯ ของตน และผลการจับรางวัลได้ที่เว็บไซด์ชิมช้อปใช้.com
ตร.แถลงจับกุมชาวต่างชาติ
เวลา 10:00 น. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงข่าวผลการจับกุมชาวต่างชาติที่มีการกระทำผิดกฎหมายหลายคดี อาทิ กลุ่มชาวเวียดนามที่มีการจัดปาร์ตี้มั่วสุม, ขบวนการค้ามนุษย์ที่มีผู้เสียหายเป็นหญิงชาวลาว, แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่น
ล่ามือมืดป่วน ขู่บึ้มสุวรรณภูมิ
วันนี้ยังต้องติดตามกรณีที่มีชาวต่างชาติโทรฯป่วนระเบิดสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 ซึ่งสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่ามีผู้ไม่หวังดี โทรฯเข้ามาที่คอลเซ็นเตอร์ของท่าอากาศยานฯ ว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น โดยหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรฯมาเป็นหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่และคาดว่าผู้โทรฯแจ้งเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมาท่าอากาศยานฯ ได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุหรือข่มขู่ในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง จึงมีการเฝ้าระวังมาโดยตลอด
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อย ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่ไม่เคยประมาท ทุกครั้งที่มีการโทรฯมาแจ้ง เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบทุกครั้ง และกำลังเร่งสืบสวนหาตัวผู้โทรฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
...