ความเคลื่อนไหวเมืองไทย 12.30 น. ประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม 2563
รับปีใหม่ "ราคาทอง" ปรับเพิ่มขึ้น 200 รูปพรรณขายบาทละ 22,150
สมาคมค้าทองคำรายงาน ราคาทองไทย ครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.26 น. โดยราคาทองปรับเพิ่มขึ้นบาทละ 200 ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ21,550 ขายออกบาทละ 21,650 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ21,163.36 ขายออกบาทละ22,150 บาท
รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ทองคำในประเทศปรับขึ้น 200 บาท ได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังสถานทูตสหรัฐฯในกรุงแบกแดดถูกโจมตี ขณะที่สหรัฐฯกล่าวโทษอิหร่านว่าเป็นผู้ชักใยการโจมตีสถานทูต นอกจากนี้ความวิตกเกี่ยวกับเกาหลีเหนือก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เข้ามาช่วยหนุนราคาทองคำประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก CB ที่แย่เกินคาด ปัจจัยที่กล่าวมาช่วยหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,525.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงปิดสิ้นปี ก่อนที่ราคาทองคำจะลดลงช่วงบวกลงหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตว่า เขาจะลงนามข้อตกลงการค้า Phase one ร่วมกันกับจีนในวันที่ 15 ม.ค. ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเดินทางเยือนประเทศจีนทำให้ทองคำ ลดช่วงบวกลงบ้าง แต่ทองคำก็ปิดตลาดในปี 2562 ด้วยการทะยานขึ้นถึง 235.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ +18.3% ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ประเมินว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,430 ถึง 1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรือประมาณ 20,500 - 23,750 บาทต่อบาททอง โดยราคาทองคำจะทำจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 1/2563 ก่อนจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี 2563 โดยเรามองว่า ปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คือ ความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่จะยังคงมีอยู่ ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเฉพาะ นโยบายของผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต (Democrat) ซึ่งผู้ท้าชิงจากเดโมแครต ส่วนใหญ่มีนโยบายที่กดดันตลาดหุ้น เช่น การเพิ่มภาษีนิติบุคคล, เพิ่มภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีรายได้สูง
ประเด็น ธนาคารกลางสำคัญๆ ทั้งธนาคารกลางของสหรัฐฯ (Fed), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) ได้กลับมาระดมซื้อสินทรัพย์ จนยอดสุทธิการเข้าซื้อสินทรัพย์กลับมาเป็นบวกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2561 แนวโน้ม "ราคาทอง" ปี 2563 ไตรมาสแรกส่อลงแรงก่อนทะยานขึ้นอาจเห็นบาทละ 23,750
รองนายกฯ 'วิษณุ' ชี้ การให้ผู้นำเหล่าทัพออกจากส.ว. ต้องเสนอกมธ.ศึกษาแก้ไขรธน.ก่อนนำเข้าสภา
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญ เสนอผ่านคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อรวบรวมเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ ของสภาผู้แทนราษฎร แล้วสภาผู้แทนราษฎรจะว่าอย่างไรก็ยังมีขั้นตอน ที่จะต้องเดินต่อไปอีก
เมื่อถามว่า สำหรับข้อเสนอปลีกย่อย สามารถเสนอในสภาได้เลยใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องเสนอต่อคณะกรรมาธิการศึกษาแก้ไข เสียก่อนหากกรรมาธิการไม่เห็นด้วยก็ตกไป แต่ถ้าเห็นด้วย ก็จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนำเข้าที่ประชุมสภา จากนั้น สภาผู้แทนราษฎรจะทำอย่างไรต่อก็แล้วแต่ เช่น 1. เสนอเป็นร่างแก้ไข 2. เสนอมายังรัฐบาล 3. อื่นๆ ก็ยังไม่รู้
‘มท.1’ยันเลือกตั้งท้องถิ่น!รอประกาศราชกิจจานุเบกษา ไม่เกินม.ค.นี้
การเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งท้องถิ่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จะต้องดำเนินการสำรวจยอดจำนวนประชากรทั้งหมด โดยใช้ยอดสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2562 เป็นหลัก และจะต้องรีบดำเนินการตามขั้นตอนให้เรียบร้อยก่อนประกาศราชกิจจานุเบกษาภายในเดือนม.ค.นี้ ซึ่งในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางรูปแบบระบุว่าต้องใช้ยอดปี 2562ในการเลือกตั้งท้องถิ่นปี 2563 โดยเฉพาะการเลือกตั้งองค์การบริการส่วนตำบล (อบต.) พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกส่วน ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนใด โดยตามกฎหมายถ้าพื้นที่ใดมีประชากรไม่ครบจำนวน 25 คนจะต้องมีการรวมหมู่บ้าน โดยมีนายอำเภอเป็นผู้ดำเนินการพร้อมทั้งทำประชาคมว่าจะรวมหมู่บ้านใด จากนั้นต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ม.ค. เพื่อเตรียมการเลือกตั้งอบต.ต่อไป
สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็จะดำเนินการตามระเบียบเพื่อแบ่งเขตการเลือกตั้ง ในส่วนภาพรวมของกระทรวงมหาดไทยต้องเตรียมการคู่ขนานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การสำรวจยอดผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งตอนนี้กำลังดำเนินการไปเรื่อยๆว่าใครมีอายุที่ถึงเกณฑ์แล้วบ้าง เมื่อทราบวันเลือกตั้งที่แน่นอนก็จะบอกยอดผู้มีสิทธิเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่แต่ละเขตได้ โดยเจ้าหน้าที่ก็เตรียมการตามอำนาจหน้าที่ไปก่อนจนกว่าจะทราบวันเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะไม่เหมือนการเลือกตั้งทั่วไป เนื่องจากจะต้องใช้งบประมาณของท้องถิ่นเป็นหลัก แต่บางส่วนก็เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.งบประมาณประจำปีด้วย ถ้าท้องถิ่นใดมีรายได้จัดเก็บหรือที่รัฐบาลแบ่งให้พอเพียงก็คงไม่มีปัญหา แต่บางพื้นที่ก็อาจจะต้องรอจากงบประมาณประจำปี หากได้รายละเอียดก็คงจะต้องมีการหารือร่วมกับกกต.ต่อไป เพื่อทำเรื่องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาการเลือกตั้งต่อไป
เมื่อถามว่า จะมีการเลือกตั้งอปท.ได้ในช่วงเดือนมี.ค.นี้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีแวว ไปเอาจากไหนมา เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นกกต.ต้องมีความพร้อม โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ขณะที่ท้องถิ่นเองก็ต้องมีความพร้อมเรื่องงบประมาณเป็นหลัก ส่วนกระทรวงมหาดไทยก็เตรียมความพร้อมเรื่องจำนวนมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ภายในเดือนม.ค.นี้ต้องรู้จำนวนประชากรทั้งหมดก่อนประกาศราชกิจานุเบกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือนม.ค.นี้
'โต๋ ศักดิ์สิทธิ์'ไม่เอาความGrabหัวขโมย หลังตามสืบเองจนได้แมคบุ๊คคืน
กรณี โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร จ้าง Grab Bike ส่ง MacBook Air แต่ของได้หายไปพร้อมกับคนขับ ซึ่งเจ้าตัวโทรเข้า call center ก็บอกว่าติดต่อไม่ได้เหมือนกัน ให้ไปแจ้งความเอาเอง จนหนุ่มโต๋ต้องออกมาทวิตข้อความถึงเรื่องดังกล่าว ทำให้มีเพื่อนๆ และแฟนคลับเข้ามาคอมเม้นท์วิจารณ์จำนวนมากนั้น
ล่าสุดโต๋ได้โพสต์อินสตาแกรม ระบุข้อความว่า "อัพเดตเรื่อง Grab bike ของหายครับสรุปผมได้ของคืนแล้ว จากการรวบรวมข้อมูลเองของทีมงานผม และการช่วยติดตามของตำรวจสน.โชคชัย ขอบคุณครับ ผมตัดสินใจไม่เอาความกับคนขี่ เพราะเห็นว่าเขาสำนึกผิด มีรายงานว่าแกร็บไบค์ได้นำเครื่องคอมพิวเตอร์แมคบุ๊กไปจำนำเพื่อนำเงินไปหมุนใช้หนี้พนันฟุตบอล
เลขาธิการสหประชาชาติแสดงความกังวลเกาหลีเหนือประกาศเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์
นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ แสดงความกังวลเป็นอย่างมากที่นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือประกาศเดินหน้าโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์อีกครั้ง โดยอ้างถึงการที่สหรัฐฯ ไม่ตอบรับเงื่อนไขข้อเรียกร้อง จึงไม่มีความจำเป็นที่เกาหลีเหนือจะต้องปฏิบัติตามข้อตกลง โฆษกของเลขาธิการสหประชาชาติ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (1 ม.ค.) ว่า เลขาธิการหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเกาหลีเหนือจะไม่เดินหน้าโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์อีก โดยชี้ถึงความสำคัญในการปฏิบัติตามข้อตกลงไม่แพร่ขยายอาวุธ ว่าคือเสาหลักพื้นฐานของความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ทั่วโลก ทั้งยืนยันว่าการใช้กระบวนการทางการทูตคือการทำงานที่สำคัญในการสร้างสันติภาพ
ทั้งนี้ในการประชุมพรรคคนงานที่เป็นพรรครัฐบาล นายคิม ผู้นำเกาหลีเหนือประกาศเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ และเตรียมเปิดเผยอาวุธชนิดใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เป็นผู้นำชาวอเมริกันคนแรกที่ได้พบกับผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อปี 2561 และยังคงยืนยันมาจนถึงขณะนี้ว่านายคิมเป็นผู้ที่รักษาคำพูด