กรณีที่มีกลุ่มผู้ประท้วงชาวอิรักปิดล้อมและบุกรุกทำลายทรัพย์สินในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงแบกแดดของอิรัก เมื่อวานนี้ (31 ธ.ค.) เพราะไม่พอใจที่กองทัพสหรัฐฯ มีปฏิบัติการโจมตีพื้นที่เป้าหมาย 5 แห่งในอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 25 ราย ซึ่งสหรัฐฯ อ้างว่าเป็นการล้างแค้นที่กลุ่มกาตาอิบ เฮซบอลเลาะห์ โจมตีค่ายทหารในอิรักแล้วทำให้มีชาวอเมริกันเสียชีวิต ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตข้อความในวันนี้ (1 ม.ค.) กล่าวโทษอิหร่านว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์บุกรุกสถานทูต และขู่ว่าอิหร่านจะต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น นายมาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร 750 นายเข้าไปในพื้นที่แล้ว
ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐฯเปิดปฏิบัติการทางอากาศโจมตีเป้าหมาย 5 แห่งในอิรัก ที่เป็นกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่สหรัฐฯ ระบุว่าได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านมาโจมตีค่ายทหารในอิรักและทำให้มีพลเรือนอเมริกันเสียชีวิต 1 ราย แต่ปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐฯ มีขึ้นโดยที่มีการแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีอิรักเพียง 30 นาที ก่อนที่จะมีปฏิบัติการ ทำให้ผู้ประท้วงที่มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลมานานหลายเดือนไม่พอใจ เปลี่ยนไปชุมนุมที่ด้านหน้าของสถานทูตสหรัฐ โดยมีการวางเพลิงป้อมยามด้านหน้า และมีการขว้างปาก้อนหิน วัตถุต่าง ๆ เข้าใส่สถานทูต เจ้าหน้าที่ทหารอิรักที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ต้องยิงแก๊สน้ำตาและระเบิดแสงเพื่อผลักดันผู้ประท้วงให้ถอยห่างออกมา
ภายหลังจากที่สถานการณ์สงบลง ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตทั้งหมดปลอดภัยดีและไม่มีการบุกรุกเข้ามาในสถานทูต ทั้งไม่มีแผนอพยพเจ้าหน้าที่ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอับดุล มาห์ดี และประธานาธิบดีบาร์ฮัม ซาลิห์ แห่งอิรักแล้ว และผู้นำอิรักได้ให้คำรับประกันความปลอดภัยแก่บุคคลากรและทรัพย์สินของสหรัฐฯ
สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีกลุ่มกาตาอิบ เฮซบอลเลาะห์เป็นกลุ่มก่อการร้ายมาตั้งแต่ปี 2552 และขึ้นบัญชีนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส เป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า กลุ่มมีความใกล้ชิดกับกองกำลังกุดส์ (Quds Force) ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการในต่างประเทศของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (Islamic Revolution Guard Corps:IRGC)
...