ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น. วันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2562

31 ธันวาคม 2562, 06:55น.


สวดมนต์ข้ามปี



          วันนี้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการสวดมนต์ข้ามปีถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย พ.ศ.2563 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง



          นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการสวดมนต์ข้ามปีที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม



          ส่วนที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร มีกิจกรรมตั้งแต่เวลา 09.00 น. โดยเป็นพิธีอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร ขึ้นประดิษฐานบนมณฑป ณ ลานคนเมือง



          และในเวลา 19.30 น. และ 23.30 น.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี



          ลานหน้าองค์พระประธานพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มีกิจกรรมตั้งแต่เวลา 22.30 น. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาสพิธีสวดมนต์ข้ามปี พุทธวิถี เสริมบารมี เริ่มสิ่งดี รับปีใหม่ 2563



เค้าท์ดาวน์



          เวลา 13:00 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานประชุมมาตรการดูแลความปลอดภัยงาน countdown ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล



          เวลา 20.00 น. นางวิภารัตน์ ไชยานุกิจ  รองปลัดกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีเปิดงาน Khaosan Countdown 2019



          เวลา 23.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2020 ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ



กรมคุมประพฤติยังเข้มดัดนิสัยพวกเมาแล้วขับพาทัวร์ห้องดับจิตยังมีอยู่



          ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการรณรงค์ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" แต่ก็ยังมีการเกิดอุบัติเหตุ ขึ้นมากกว่า 1,500 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวมกันมากกว่า 2,000 ราย



          นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จากการตรวจหาสิ่งเสพติดจากผู้ที่ขับรถโดยสาร มีการสุ่มตรวจทั้งหมด 1,545 คน พบว่ามีจำนวน 5 คนที่มีสารเสพติดในร่างกาย จึงส่งเข้ารับการบำบัด ส่วนคดีเมาแล้วขับในปีนี้เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยปี 2561 มีจำนวน 2,944 คดี ในปี 2562 มีจำนวน 4,452 คดี มี 36 รายที่กระทำผิดซ้ำ



          นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยด้วยว่ามีคดีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ที่เข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลทั่วประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่มากกว่า 10,000 คดี ความผิดสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ขับรถขณะเมาสุรา 9,556 คน รองลงมาคือขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต และขับรถขณะเสพยาเสพติด



          นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่าในปีนี้กรมคุมประพฤติจะไม่มีกำไลอีเอ็มใช้ควบคุมผู้ถูกคุมประพฤติในคดีเมาแล้วขับ แต่มีการใช้มาตรการอื่นทดแทนโดยผู้ที่ถูกจับในคดีเมาแล้วขับที่มีประวัติกระทำความผิดซ้ำ จะถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดอาการติดสุรากับกระทรวงสาธารณสุข โดยจะต้องเข้ารับการบำบัดเต็มตามหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้กำหนด ส่วนผู้ที่พบว่ากระทำความผิดเป็นครั้งแรก กรมคุมประพฤติจะเสนอศาลขอให้ส่งตัวเข้าทำงานบริการสังคมในโรงพยาบาล โดยจะให้ไปดูแลผู้ป่วยในแผนกอุบัติเหตุ และเข้าเยี่ยมชมห้องดับจิต กับจะเพิ่มหลักสูตรอบรมจราจรให้เห็นถึงพิษภัยเมาแล้วขับ



          ในส่วนของกำไลอีเอ็ม กรมคุมประพฤติจะเปิดใช้อีกครั้งภายในปี 2563 หลังการแก้ไขปัญหาระบบการใช้งานเสร็จสิ้น ซึ่งนายสมศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กำชับให้เรียนรู้จากการผิดพลาดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และกำชับเรื่องการใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า



กมธ.งบประมาณตัดงบ 1 หมื่น 6 พันล้าน



          นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กรรมาธิการฯ พิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายฯ วงเงิน 3 ล้าน 2 แสนล้านบาท จำนวน 55 มาตรา ที่มีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมาธิการฯ เสร็จเรียบร้อยแล้วรอนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรวาระ 2-3 ระหว่างวันที่ 8-9 มกราคม โดยได้พิจารณาปรับลดงบลงไปทั้งสิ้น 16,231 ล้านบาท ซึ่งตามขั้นตอนยังต้องผ่าน ความเห็นชอบจากวุฒิสภา และรอว่าจะมีผู้ร้องว่ามีเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงคาดว่าน่าจะมีผลบังคับใช้ได้ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคม 2563 เท่ากับมีระยะเวลาการใช้งบประมาณ 7 เดือน



          สำหรับร่าง พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 หน่วยงานที่ถูกปรับลดงบประมาณรายจ่ายลงมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กระทรวงกลาโหม ถูกตัดลดงบประมาณ 1,518,272,500 บาท จาก 125,918,522,500 บาท เหลือ 124,400,250,000 บาท



          กระทรวงสาธารณสุข ถูกตัดงบประมาณ 1,318,310,800 บาท จาก 28,049,048,300 บาท เหลือ 26,730,737,500 บาท



          และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถูกตัดลดงบประมาณ 1,147,479,100 บาท จาก 49,037,823,700บาท เหลือ 47,890,344,600 บาท



...

ข่าวทั้งหมด

X