กลับมาที่งานเสวนา "สภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน" ล่าสุดภาคประชาชนที่เข้าร่วมงานได้มีการตั้งคำถามและฝากประเด็นปัญหาของตัวเองไปยังนาย สมชาย แสวงการ และ นาย ตวง อัณทะไชย สมาชิกสนช.ที่เข้ารับฟังความเห็นประชาชนในฐานะตัวแทนสนช .ในหลายเรื่อง เช่นได้เสนอให้นำตัวแทนภาคประชาชนและสื่อมวลชนเข้าร่วมฟังการประชุมสนช. หากที่ประชุมสนช.มีการประชุมแบบลับ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและไม่เป็นที่เคลือบแคลงต่อสาธารณชน ซึ่งนาย ตวง ระบุว่า จะรับไว้พิจารณาและจะนำไปหารือกับที่ประชุมสนช.ต่อไป พร้อมยืนยันว่าการประชุมทุกครั้งของสนช.มีความโปร่งใสและไม่มีการล็อคผลล่วงหน้า ส่วนการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และปัญหาติดแบล็คลิสต์ในธนาคารพาณิชย์ ซึ่งผู้ที่มีรายได้น้อยมักต้องกู้ยืมเงินและมักประสบปัญหาไม่มีเงินจ่าย เพราะขาดความสามารถในการบริหารเงิน และมักถูกข่มขู่จากเจ้าหนี้ นาย สมชาย ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง และขณะนี้สนช.ก็ได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ ที่จะดูแลลูกหนี้และจำกัดสิทธิของเจ้าหนี้เพื่อไม่ให้เกิดการข่มขู่แล้ว ส่วนปัญหาเกษตรกรปลูกข้าวแล้วขายไม่ได้ราคา ซึ่งภาคประชาชนได้เรียกร้องให้ช่วยหามาตรการที่สามารถขายข้าวได้ราคากว่านี้ นาย สมชาย ก็ระบุว่า ด้วยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้การส่งออกหดตัว ส่งผลถึงราคาข้าวที่ปัจจุบันขายได้เพียง 5,000 บาทต่อเกวียน ยืนยันว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับหน่วยงานต่างๆเพื่อหามาตรการช่วยเหลือ แต่ขอให้รอสักระยะ อีกทั้งจากการตรวจสอบข้าวที่อยู่ในสต็อกกว่า 18 ล้านตันก็พบว่าเป็นข้าวที่ไม่มีคุณภาพถึงร้อยละ 70 ทำให้ส่งผลต่อราคาข้าวด้วย ภาคประชาชนยังได้เสนอแนะให้สนช.ช่วยแก้ปัญหาการทุจริตและกระจายอำนาจสู่การปกครองท้องถิ่นมากขึ้น โดย นาย ตวง ระบุว่า ปัญหาการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เป็นปัญหาที่ต้องแก้กันอีกมาก เพราะจากที่ศึกษาพบปัญหาต่างๆมากมาย เช่น ปัญหาผู้มีอิทธิพล ประชาชนยังขาดความรู้ ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวแก้ไขยากและต้องใช้เวลา ส่วนปัญหาคอรัปชั่นต้องมีมาตรการที่รุนแรงและเด็ดขาดจึงจะแก้ปัญหาได้ และในวันนี้จะนำปัญหาต่างๆที่ประชาชนสะท้อนมานำเสนอต่อสนช.และรับไว้พิจารณาเพื่อเป็นแนวทางการปฎิรูปต่อไป
ธีรวัฒน์