คาดศก.ไทย 2563 โต 2.8 % ธปท.ห่วงหนี้ครัวเรือน-ศก.โลก

          เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะโตกี่เปอร์เซนต์และมีเรื่องไหนที่เราต้องติดตามเป็นพิเศษ น.ส.พรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการ สำนักวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้า จะขยายตัวร้อยละ 2.8 ดีกว่าปีนี้ร้อยละ 0.3 แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องดู คือ เศรษฐกิจโลกที่ดูเหมือนว่าจะดีแต่ยังมีความไม่แน่นอนและต้องติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่จะมีผลต่อการส่งออกของไทย คาดว่าปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 0.5 การลงทุนภาคเอกชน จะขยายตัวร้อยละ 3.4 ส่วนการลงทุนภาครัฐ จะขยายตัวร้อยละ 6.3 ไทยยังต้องพึ่งการส่งออกและการลงทุนในภาครัฐเป็นหลัก

          ปัจจัยในประเทศอย่างการเมืองเชื่อว่าจะคุยกันได้ ย้ำว่าหากเศรษฐกิจดีขึ้นและมีการลงทุนภาครัฐมากขึ้นก็จะทำให้การจ้างงานและบรรยากาศเศรษฐกิจในประเทศดีขึ้นด้วย ธปท.ฝากความหวังไว้กับการลงทุนของภาคเอกชน ด้านสถานการณ์ค่าเงินบาทปีหน้า ยังไม่ชัดเจน อาจจะแข็งค่าขึ้นกว่าเดิมหรืออ่อนค่าลง ส่วนค่าแรงขั้นต่ำรอบใหม่ที่จะใช้หลังปีใหม่มองว่าจะช่วยให้เกิดกำลังซื้อมากขึ้น แต่ก็ต้องหามาตรการช่วยนายจ้างและควรเพิ่มทักษะแรงงานให้มากขึ้นด้วย พร้อมย้ำว่าธปท.เป็นห่วงเรื่องหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง โดยจะเข้าไปดูและและหาทางปรับโครงสร้างหนี้

          น.ส.พรเพ็ญ ระบุถึง การเปิดให้บริการของธนาคารต่างๆในวันส่งท้ายปีและวันขึ้นปีใหม่ว่าให้ขึ้นกับดุลพินิจของแต่ละธนาคารว่าจะเปิดวันใด แต่โดยปกติทุกธนาคารจะแจ้งให้ประชาชนทราบก่อนอยู่แล้ว

          ภาพรวมเศรษฐกิจเดือนพฤศจิกายน 2562 น.ส.พรเพ็ญ เปิดเผยว่า อยู่ในภาวะชะลอตัว การส่งออกเกือบทุกสินค้าหดตัวลง ทำให้ติดลบร้อยละ 7.7 สาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัว ประกอบกับการปิดซ่อมโรงกลั่นน้ำมันบางแห่ง ด้านการนำเข้าติดลบร้อยละ 13.9 โดยหดตัวในเกือบทุกสินค้าเช่นกัน และผลจากร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ที่ยังไม่ผ่านสภาฯ ทำให้การใช้จ่ายลงทุนในภาครัฐหดตัวตามด้วย ส่วนการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่น่าห่วง

          ข้อดีของเศรษฐกิจเดือนพฤศจิกายนคือการบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวร้อยละ 2.4 ถือว่าดีขึ้นเล็กน้อยแม้ยังชะลอตัวประกอบกับนักท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 5.9 จากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นธปท.คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 2.5 แต่การส่งออกคงติดลบไม่น้อยกว่าร้อยละ 3.4 และรวมทั้งปีนักท่องเที่ยวจะเข้าไทยตามเป้าที่ 39,900,000 คน