รมว.ยธ.ขออย่าปลุกความเห็นต่าง ไม่เกิดประโยชน์
เช้าวันนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นัดพบปะสื่อมวลชน พร้อมพูดคุยประเด็นทางการเมือง ที่ร้านอาหารชวนชม เรือนจำคลองเปรม โดยกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านต้องการแก้ไขทั้งฉบับ ขณะที่รัฐบาลอยากให้แก้เป็นรายมาตราว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เป็นผู้พิจารณา โดยช่วงนี้ยังเป็นแค่ช่วงพิจารณาศึกษา ส่วนการแก้ไขเป็นอีกระยะหนึ่ง โดยระบุด้วยว่าการพูดให้เกิดความคิดเห็นต่าง เกิดความเสียหายต่อประเทศและประชาชน ไม่เกิดประโยชน์อะไร
รมว.คม.เดินหน้าโครงการ 3 แสน 4 หมื่นล้าน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่าสามารถเดินหน้าโครงการขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องรอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเดือนมกราคม 2563 โดยได้สั่งการให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้พิจารณาการใช้แหล่งเงินที่เหมาะสม โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สามารถดำเนินงานได้ทันที อาทิ โครงการที่เป็นการร่วมลงทุนกับเอกชน ซึ่งจะสามารถเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาได้ภายในเดือนมกราคม 2563 สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2563 กระทรวงคมนาคมมีงบลงทุนรวม 346,524 ล้านบาท แบ่งเป็น ทางบก 163,371 ล้านบาท, ทางราง 126,419 ล้านบาท ทางอากาศ 48,637 ล้านบาท ทางน้ำ 7,791 ล้านบาท ด้านนโยบาย 304 ล้านบาท ซึ่งจะมีการลงทุน 53 โครงการ
กรมคุมประพฤติ เตรียมดัดนิสัยพวกเมาแล้วขับพาทัวร์ห้องดับจิต
นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า ในปีนี้แม้กรมคุมประพฤติจะไม่มีกำไลอีเอ็มใช้ควบคุมผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับ แต่หากผู้ที่ถูกจับในคดีเมาแล้วขับมีประวัติกระทำความผิดซ้ำ จะถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดอาการติดสุรากับกระทรวงสาธารณสุขตามหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้กำหนด ส่วนผู้ที่พบว่ากระทำความผิดเป็นครั้งแรก กรมคุมประพฤติจะเสนอศาลขอให้ส่งตัวเข้าทำงานบริการสังคมในโรงพยาบาล โดยจะจัดให้ไปดูแลผู้ป่วยในแผนกอุบัติเหตุ ช่วยเข็นรถอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วย และเข้าเยี่ยมชมห้องดับจิต เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสำนึกไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทหลังดื่มสุรา เพราะไม่เพียงทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อต้องบาดเจ็บและพิการจากผู้เมาแล้วขับ นอกจากนี้ จะเพิ่มหลักสูตรอบรมจราจรให้เห็นถึงพิษภัยเมาแล้วขับ เพื่อให้เกิดความเข็ดหลาบไม่กระทำความผิดซ้ำ
สศก.คาดจีดีพีเกษตรปี 2563 เติบโตร้อยละ 2-3
แม้จะมีการคาดการณ์ว่าสภาพภูมิอากาศของไทยในปี 2563 จะมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ในขณะที่น้ำในเขื่อนมีน้อยไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. คาดว่าเศรษฐกิจของไทยในปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 2.7-3.7 และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ระบุว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2563 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.4 สศก. จึงหวังว่าภาวะจีดีพีการเกษตรในปี 2563 จะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2– 3 เนื่องจากมีการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร แผนการผลิตการตลาดข้าวที่ครบวงจร มีการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร การส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ การพัฒนาอาชีพ โดยพืชสำคัญที่มีราคาอยู่ในเกณฑ์ดี ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลำไย ทุเรียน มังคุดและเงาะ เนื่องจากมีความต้องการทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง
ปธน.รัสเซียขอบคุณปธน.สหรัฐฯ แจ้งข้อมูลก่อการร้าย
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวแสดงความขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันอาทิตย์ (29 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น กรณีที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ แจ้งต่อหน่วยความมั่นคงกลางแห่งชาติรัสเซีย หรือเอฟเอสบี ว่ามีกลุ่มก่อการร้ายวางแผนโจมตีนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซีย ในระหว่างที่จะมีการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ จนนำไปสู่การจับกุมสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายที่เตรียมการเพื่อลงมือก่อเหตุได้จำนวน 2 คน เมื่อเร็วๆ นี้
รมว.คลังฮ่องกงคาดเหตุประท้วงฉุดเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาส 4
นายพอล ชาน รัฐมนตรีคลังฮ่องกง คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจฮ่องกงจะหดตัวลงในไตรมาส 4 ของปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วงที่ยืดเยื้อมานานถึง 6 เดือน ส่งผลให้รัฐบาลมีทางเลือกน้อยลงในการออกมาตรการทางการเงินในยามที่เศรษฐกิจถดถอย ก่อนหน้านี้ฮ่องกงเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ในไตรมาส 3 หดตัวร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และหดตัวร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบรายปี มาจากการประท้วงที่ยืดเยื้อ
สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีนรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้ก่อความวุ่นวายในห้างสรรพสินค้า ในย่านเซิงซุย โดยมีการบุกร้านค้าและสั่งให้ผู้ที่มาซื้อของออกจากห้าง ส่งผลให้ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดร้าน ทั้งยังมีการปาตะปูใส่ร้านค้า รุมล้อมผู้ที่มาซื้อของในห้าง และทำร้ายร่างกายชายรายหนึ่งด้วย เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าจับกุม
...