ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 (ศปถ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 27 ธ.ค. 2562 เกิดอุบัติเหตุ 464 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 43 ศพ ผู้บาดเจ็บ 466 คน สั่งการให้จังหวัดดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน กำชับจุดตรวจเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจยานพาหนะ และความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว รวมถึงให้เตรียมพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย ยานพาหนะให้พร้อมเข้าถึงจุดเกิดเหตุทันที เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 30.39 ขับรถเร็ว ร้อยละ 24.78 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.08 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.22 ถนนใน อบต.หมู่บ้าน ร้อยละ 30.60 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 30.39 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.27 ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,026 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 63,961 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 731,933 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 158,453 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 42,912 ราย ไม่มีใบขับขี่ 39,584 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี (20 ครั้ง)
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จ. เชียงราย จ.ประจวบคีรีขันธ์ (จังหวัดละ 4 ศพ) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จ. สุราษฎร์ธานี (22 คน) ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว ขณะที่บางส่วนยังอยู่ระหว่างการเดินทาง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้เน้นย้ำจังหวัด ให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว มุ่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางลักผ่าน ทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน พร้อมดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด อีกทั้งเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท กำชับให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เน้นการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และคุมเข้มการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์กรณีเกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บรุนแรงทุกราย กระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย รวมถึงยานพาหนะให้พร้อมเข้าถึงจุดเกิดเหตุทันที
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ขอฝากเตือนประชาชน ยึดหลัก 3 ร. “รักตัวเอง รักครอบครัว และรักผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น” เป็นปฏิญญาร่วมกันในการสร้างความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่
CR:ปภ. กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์