ธนาคารกลางจีน สร้างความประหลาดใจลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%ครั้งแรกในรอบ2ปี

ธนาคารกลางของจีน (พีบีโอซี) สร้างความประหลาดใจ ด้วยการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ2 ปี โดยลดระดับดอกเบี้ยเงินฝากรายปีลงอีกร้อยละ 0.25 เหลือเพียงร้อยละ 2.75 และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 0.40 ลงไปอยู่ที่ร้อยละ5.6 ซึ่งมีผลบังคับใช้วันนี้(22 พ.ย.)ทันที ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในภาวะซบเซา และมีแนวโน้มจะพลาดเป้าการเติบโตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี1999 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับว่าสอดคล้องกับท่าทีของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมสวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้ยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี)แล้ว นายหวาง เถา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทให้บริการทางการเงิน ยูบีเอสเอจี ในฮ่องกง กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ท่ามกลางการเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง ซึ่งได้กระทบกับสภาพคล่องและงบดุลของบริษัทต่างๆ อีกทั้งยังก่อให้เกิดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ปัจจัยที่จีน ปรับลดดอกเบี้ยและอีซีบี ขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์  ปิดในแดนบวก ขณะที่ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500 ยังเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 91.06 จุด  ปิดที่ 17,810.06 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.75 จุด  ปิดที่ 2,063.50 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 11.10 จุด  ปิดที่ 4,712.97 จุด

ส่วนราคาน้ำมัน  ปิดบวกพอสมควร หลังจีนสร้างความประหลาดใจด้วยการปรับลดดอกเบี้ย ปัจจัยนี้เองที่ดันให้ราคาทองคำขยับขึ้นเช่นกัน

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดที่ 76.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะเดียวกัน ปัจจัยที่ธนาคารกลางในจีนและยุโรป ประกาศใช้มาตรการเชิงรุกสนับสนุนเศรษฐกิจ ทำให้ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,197.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์