แหล่งข่าวในรัฐบาลอินเดีย เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดียได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน เพื่อหารือถึงสถานการณ์ความรุนแรงจากการประท้วงต่อต้านกฎหมายการให้สถานะพลเมืองแก่ผู้อพยพชาวปากีสถาน อัฟกานิสถาน และบังคลาเทศ เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม แต่ผู้ประท้วงกลับระบุว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติต่อชาวมุสลิม เนื่องจากให้สถานะเฉพาะผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม อีกทั้งยังขัดต่อบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญของอินเดีย
นับตั้งแต่รัฐสภาอินเดียผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน กลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าวต่างออกมาชุมนุมประท้วงตามสถานที่สาธารณะในหลายเมือง แม้จะถูกสั่งห้ามจากทางการ และทำให้เกิดการปะทะกันกับตำรวจหลายครั้ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 ศพ ในจำนวนนี้เป็นผู้ประท้วงในรัฐอุตตรประเทศอย่างน้อย 6 ศพ และบาดเจ็บอีก 32 คน
ด้านผู้บัญชาการตำรวจรัฐอุตตรประเทศยืนกรานปฏิเสธว่าการเสียชีวิตของผู้ประท้วงดังกล่าวไม่ได้มีสาเหตุจากการยิงปืนใส่กลุ่มผู้ประท้วงของตำรวจที่เข้าสลายการชุมนุม นอกจากรัฐอุตตรประเทศแล้ว การชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ยังมีขึ้นที่กรุงนิว เดลี โดยผู้ประท้วงหลายพันคนได้รวมตัวกันรอบมัสยิดญามะ ซึ่งเป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในอินเดียด้วย ขณะที่ทางการอินเดียพยายามควบคุมการประท้วงด้วยการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตรอบพื้นที่การชุมนุมประท้วง