ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2562

เกษตรฯเตรียมรับนมดิบล้นตลาด

          น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม จึงมอบให้กระทรวงเกษตรฯขับเคลื่อนนโยบายเพื่อดูแลเกษตรกรโคนมให้ประกอบอาชีพได้มั่นคง และเล็งเห็นความสำคัญของการตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมขนาดใหญ่ และตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมครบวงจร เพื่อรองรับปริมาณน้ำนมดิบที่คาดว่าจะเกินความต้องการในปีหน้า จึงมอบหมายองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. พิจารณาแนวทางแก้ปัญหา

          ทั้งนี้ การเลี้ยงโคนมในจังหวัดภาคเหนือตอนบนส่วนใหญ่อยู่ใน 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง มีการรวมตัวเป็นสถาบันเกษตรกร ประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม 18 สหกรณ์ บริษัทเอกชน 4 แห่ง โรงงานนม 5 แห่ง มีเกษตรกรรวม 1,403 ราย โคนม 64,147 ตัว และมีปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตได้ 8,990 ตันต่อเดือน หรือ 299.7 ตันต่อวัน มีแนวโน้มปริมาณน้ำนมดิบของสหกรณ์เพิ่มขึ้นทุกปีในปี 2559 เฉลี่ย 350 ตันต่อวัน โดยมีอัตราการเติบโตของ น้ำนมดิบปริมาณปี 2558 และ 2559 ประมาณร้อยละ 5-6 คาดว่าปี 2563 จะมีปริมาณน้ำนมดิบประมาณ 400 ตัน

คลังต้อนแม่ค้าออนไลน์เสียภาษี

          นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในปี 2563 กรมตั้งเป้าหมายในการติดตามผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ที่ขายของผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งยังเสียภาษีไม่ถูกต้อง จำนวนประมาณ 1 แสน 7 หมื่นราย โดยในการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ปี 2562 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2563 กรมขอให้ผู้ที่มีรายได้จากการขายของออนไลน์มายื่นแบบเสียภาษีให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เสียเบี้ยปรับเพิ่ม

นิติศาสตร์ มธ.สัมมนาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

          เวลา 13.00 -16.30 น. คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดสัมมนาเนื้อหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ในหัวข้อฉ้อโกงขายของทางออนไลน์ โดยมีผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ผู้เสียหายแจ้งความคดีฉ้อโกง

          เวลา14.00 น. ที่ สน.ลาดพร้าว กลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความในคดีฉ้อโกงและคดีเช็ค กรณีที่มีกรรมการผู้บริหารเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของบริษัทสุขภาพหลอกลวงให้ร่วมลงทุนซื้อหุ้นที่ไม่มีอยู่จริง มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท

ฝากขังสมคิด พุ่มพวงวันนี้

         จากกรณี นายสมคิด พุ่มพวง อายุ 55 ปี ฆาตกรต่อเนื่องที่พ้นโทษออกมาเมื่อกลางปีและก่อเหตุฆ่าศพที่ 6 เป็นหญิงอายุ 51 ปี ในพื้นที่เกิดเหตุ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น โดยนับตั้งแต่ถูกคุมขังอยู่ที่ สภ.กระนวนมาตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม มีชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากมาร่วมการชุมนุมและเรียกร้องให้ประหารชีวิต ขณะที่นายสมคิดอ้างว่ามีอาการป่วยจึงขอไม่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุ แต่ยอมไปทำแผนเส้นทางหลบหนีหลายจุด  

          พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะไม่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้านที่เกิดเหตุ ทางพนักงานสอบสวนจึงจำลองเหตุการณ์สังหารผู้เสียชีวิตภายในห้องสอบสวนมีการบันทึกเป็นภาพทั้งภาพนิ่งและวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่มีผลกับสำนวนคดีเนื่องจากผู้ต้องหารับสารภาพ โดยในวันนี้ จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลขอนแก่น นอกจากนี้ยังมีสตรีอีก 1 คนที่จังหวัดชัยภูมิที่นายสมคิดพักอาศัยอยู่ด้วยมานานครึ่งปี หรือหลังจากที่พ้นโทษออกมาจากเรือนจำ

ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตไซซะนะลอบนำเข้ายาเสพติด

          ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุกตลอดชีวิตนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว ในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายไซซะนะ แก้วพิมพา อายุ 42 ปี ชาวลาว เป็นจำเลยในความผิดอาญามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย กรณีจำเลยมียาบ้าไว้ในครอบครอง 1 ล้าน 2 แสนเม็ด โดยเมื่อวานนี้ ศาลเบิกตัวจำเลย จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งมีความเห็นว่า พยานหลักฐานที่จำเลยยื่นอุทธรณ์ไม่มีน้ำหนักที่จะหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ แม้จะเป็นชาวต่างชาติและการกระทำเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร แต่ประสงค์ให้เกิดในราชอาณาจักร จึงต้องดำเนินคดีและนับโทษตามกฎหมายในประเทศไทย ส่วนกรณีที่จำเลยอุทธรณ์ว่า เจ้าหน้าที่ไทยและลาวทำงานร่วมกันอาจไม่เข้าใจในภาษา ทำให้เกิดความคาดเคลื่อนและความเข้าใจผิดนั้น ในชั้นพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความระมัดระวังอยู่แล้ว อีกทั้งมีล่ามแปลภาษาและทนายความเข้าร่วม ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย หากจำเลยไม่เข้าใจในขณะนั้นก็สามารถสอบถามล่ามได้ การอุทธรณ์ของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกตลอดชีวิต

...