สภาผู้แทนสหรัฐฯ ลงมติรับรองบทบัญญัติถอดถอนปธน.ทรัมป์ รอการชี้ขาดในวุฒิสภา

          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐฯที่ต้องเข้าสู่กระบวนการชี้ขาดในชั้นพิจารณาของวุฒิสภา หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่เดโมแครตครองเสียงข้างมากลงมติรับรองบทบัญญัติถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด และขัดขวางกระบวนการไต่สวนถอดถอนของสภาคองเกรส โดยในลำดับต่อไปคือที่ประชุมวุฒิสภาที่จะมีการลงมติว่าเขายังอยู่ในตำแหน่งหรือไม่

          การลงมติยังมีขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังรณรงค์หาเสียงอยู่ที่รัฐมิชิแกน สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในปีหน้า

          การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเริ่มต้นด้วยการที่สมาชิกพรรครีพับลิกันของประธานาธิบดีทรัมป์เสนอให้มีการลงมติในประเด็นที่เกี่ยวกับการพยายามขัดขวางกระบวนการไต่สวนถอดถอน ตามมาด้วยอภิปรายยาวนานถึง 6 ชั่วโมง และเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ประมาณ 8.30 น.ตามเวลาประเทศไทย) สภาผู้แทนราษฎรจึงมีการลงมติเห็นชอบด้วยเสียงข้างมากใน 2 ประเด็นคือ การใช้อำนาจในทางมิชอบ อันเนื่องมาจากความพยายามกดดันให้ยูเครนประกาศการสอบสวนนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของนายโจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมือง สภาลงมติรับรองด้วยคะแนนเสียง 230-197 เสียง และประเด็นที่ 2 คือการขัดขวางการสอบสวน เนื่องจากประธานาธิบดีปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการ ตลอดจนการสอบสวน ไม่ส่งมอบหลักฐานเอกสาร และไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวส่งมอบหลักฐาน สภาผู้แทนราษฎรลงมติด้วยคะแนนเสียง 229-198 เสียง

          สำหรับประธานาธิบดี 2 คนก่อนหน้านี้ที่สภาผู้แทนราษฎรรับรองบทบัญญัติถอดถอนคือนายแอนดรูว์ จอห์นสัน และนายบิล คลินตัน แต่ ยังไม่เคยมีผู้นำสหรัฐฯคนใดถูกปลดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเมื่อถึงการลงมติเพื่อชี้ขาดในชั้นวุฒิสภาที่ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ทั้ง 2 คนต่างก็รอดพ้นจากการลงมติ และนักวิเคราะห์จำนวนมากต่างก็เชื่อว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนครบวาระสิ้นปีหน้า

...