*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา07.30น.*

+++ในที่สุดแล้ว คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) มีมติร่วมกันว่าไม่ก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ที่จ.นครสวรรค์ นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผล กระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (อีเอชไอเอ) โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ กล่าวว่า หลังนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำหนังสือคัดค้านการสร้างเขื่อนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีป่าที่สมบูรณ์มากกว่าที่จะปล่อยให้มีการสร้างเขื่อน รวมทั้งในอนาคตจะผนวกอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เป็นพื้นที่มรดกโลกรวมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นป่าผืนเดียวกัน ก็ถือว่าได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้วว่าไม่ควรสร้าง อย่างไรก็ตามโครงการนี้เสนอโดยรัฐบาลคือกรมชลประทาน ในอนาคตกรมชลประทาน สามารถไปทำข้อมูลมาใหม่ เพื่อให้ คชก.พิจารณาอีกครั้งก็ได้ คชก.ก็มีหน้าที่พิจารณาให้ความเห็นประกอบ เพื่อนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ แต่กรมชลประทาน ควรจะไปคุยในรายละเอียดของพื้นที่ป่าในอุทยานแห่งชาติให้ตัวเลขและสถานการณ์ต่างๆ ตรงกันก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม หากจะนำมาเสนออีกครั้ง

+++ด้านนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งที่ คชก.ได้ข้อสรุปออกมาแบบนี้ การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ยังคงต้องมีต่อไป สิ่งที่มูลนิธิสืบฯจะต้องทำต่อคือการผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปจัดการน้ำทางเลือกหรือการสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็ก สำหรับพื้นที่ที่มีปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งในบริเวณนั้นต่อไป ไม่ใช่ว่าพอไม่มีเขื่อนแม่วงก์แล้ว ปัญหาของชาวบ้านจะหมด เพราะพื้นที่นั้นจะมีปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งอยู่ กินพื้นที่กว้างประมาณ 1 ล้านไร่ ซึ่งผู้รับผิดชอบเรื่องนี้มี 4 หน่วยงานหลัก คือ 1.กรมชลประทาน 2.กรมทรัพยากรน้ำ 3.กรมโยธาธิการ และ 4.ส่วนท้องถิ่น

+++นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และตัวแทนสมาคมชาวนาฯ สาขา8จังหวัดภาคเหนือตอนบน ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ชั่วคราว) ภายในสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (เดิม) ถนนพิษณุโลก โดยขอให้ นายกรัฐมนตรี สั่งการไปยังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ให้ชาวนาได้พักการชำระหนี้ เนื่องจาก ชาวนาได้รับเงินจากขายข้าวไม่เพียงพอกับต้นทุนการผลิต อีกทั้งภาครัฐให้ชาวนาหยุดทำนาในฤดูแล้งนี้ ทำให้ชาวนาไม่สามารถชำระหนี้สินให้กับ ธ.ก.ส. จึงขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาอีกระยะ และขอให้ช่วยพยุงราคาข้าวเปลือกเหนียวสันป่าตอง 1ให้สูงขึ้น ซึ่งควรอยู่ที่ตันละ8,000-8,500บาท เพราะขณะนี้ราคาข้าวเปลือกเหนียวราคาตกต่ำ เหลือตันละประมาณ7,000บาท ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมาประจำการในศูนย์บริการประชาชนฯ เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน

+++นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า จากที่ ธ.ก.ส.ได้เริ่มจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้ชาวนา 1 พันบาทต่อไร่ เริ่มตั้งแต่ 20 ตุลาคม 2557 ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน ได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรไปแล้วจำนวน 5.53 แสนครอบครัว (จากที่ประมาณการไว้ที่ 3.47 ล้านครอบครัว) เป็นเงิน 6.59 พันล้านบาท การจ่ายเงินที่ยังมีความล่าช้า เนื่องจากมีขั้นตอนในการตรวจสอบและรับรองสิทธิระดับตำบลและระดับอำเภอเป็นไปอย่างเข้มงวดรัดกุมเพื่อป้องกันการทุจริต คาดการจ่ายเงินจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนธันวาคม การจ่ายช่วยเหลือในครั้งนี้มองว่าจะถึงมือเกษตรกรรายย่อยที่มีพื้นที่นาต่ำกว่า 15 ไร่ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1.8 ล้านครัวเรือนมากที่สุด

+++นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ส่งเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 คน ซึ่งมีทั้งส่วนกลางและ สตง.ที่ประจำอยู่ในต่างจังหวัด 25 จังหวัดภาคกลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบการจ่ายเงิน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบประมาณ 30 วันหลังจากนั้นจะรายงานภาคีเครือข่ายองค์กรต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป ส่วนในภาคอื่นๆ มีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)รับผิดชอบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน)ขณะที่ภาคใต้และภาคเหนือ จะมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมรับผิดชอบ

+++ปัญหาภัยแล้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้นายอภิชาติ พงษ์ศรีหดุลชัย ผู้ช่วย รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งปี 2557/2558 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลกอ.เมือง จ.พิษณุโลก

+++ความคืบหน้าโครงการจ้างแรงงานเกษตรกรเพื่อช่วยเยียวยาผลกระทบจากภัยแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลองระยะเวลาโครงการตั้งแต่พ.ย. 2557-เม.ย.2558 งบประมาณดำเนินการรวม 1.46 พันล้านบาท นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้จ้างผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-60 ปีตามระเบียบราชการในการจ้างแรงงานชั่วคราว อัตราค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน จากข้อมูล วันที่ 18 พ.ย.มีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรมาสมัครงานกับหน่วยงานของกรมชลประทานในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาแล้วทั้งสิ้น 1.79 หมื่นราย ส่วนในลุ่มน้ำแม่กลองซึ่งยังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวข้าว มีมาสมัครแล้ว 930 ราย จากเป้าหมายรวมตั้งไว้ประมาณ 2.5 แสนราย ยอมรับว่าผู้ที่มาสมัครอาจน้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้  นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเสริมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในฤดูแล้ง เช่น การฝึกอบรมอาชีพ และการแจกเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่ว ที่ใช้น้ำในการผลิตน้อย มีการตั้งข้อสังเกตที่มีชาวนามาสมัครน้อย เนื่องจาก ชาวนาส่วนใหญ่อายุมาก และค่าจ้าง 300 บาทต่อวันเทียบเท่ากับแรงงานต่างด้าวที่รับเหมาก่อสร้างได้ 300-400 บาทต่อวันทำให้ไม่จูงใจ

+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วันนี้ จะมีการตั้งกระทู้ถามครั้งแรก นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. ตั้งกระทู้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องการตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หากสมาชิกสนช.ประสงค์ที่จะยื่นกระทู้ถามรัฐมนตรีขอให้ยื่นได้ในวันนี้ เวลา 08.30 -09.00 น. ซึ่งกระทู้ถามต้องเป็นเรื่องสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน และเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน และวันหนึ่งสามารถถามกระทู้ได้ไม่เกิน 3 กระทู้

+++ขณะที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ นัดประชุมกันตามกรอบระยะเวลาที่วางไว้ เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็น นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ในฐานะประธานกมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ภายในวันที่ 29 ธ.ค. จะต้องได้กรอบการยกร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นจะมีการยกร่างรัฐธรรมนูญจริงหลังปีใหม่นายบวรศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่าอาจจะไม่ร่วมแสดงความเห็นต่อ กมธ.ยกร่างฯว่า ถ้าพรรค พท.ไม่มา มีวิธีที่จะได้ข้อมูล โดยอาจจะเข้าไปหาพรรค พท.เอง หากกรณีที่พรรคการเมืองอื่นจะไม่มาร่วมแสดงความเห็นจะขอพิจารณาเป็นรายพรรคการเมือง เช่น พรรคการเมืองมีความชัดเจนว่าไม่ได้ต่อต้านการยกร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมจะไปรับฟังความเห็น แต่บางพรรคที่ต่อต้านชัดเจนคงไม่มีประโยชน์ที่จะไป

+++นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) จะมาพบคณะกมธ.ในสัปดาห์หน้า ได้ติดต่อเป็นการส่วนตัวกับนายไพบูลย์ นิติตะวัน หนึ่งใน กมธ.ยกร่างฯ ด้านปฏิรูปด้านการเมือง ให้ความเห็นข้อเสนอแนะเป็นการส่วนตัวไม่ได้เข้าไปในนามพรรคเพื่อไทย

+++วันนี้ มีการแถลงรายละเอียดการจับคนร้ายแทงนายประดิษฐ โชติช่วง อายุ 54 ปี นักธุรกิจโรงงานผลิตร่ม ชื่อ บริษัท ไทยซิตี้ อัมเบลล่า เสียชีวิตบริเวณฟุตบาท ใกล้กับทางเข้าร้านอาหาร บี-โอเค ถ.เจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม  เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวคนร้ายที่เป็นกุ๊กชาวเวียดนาม คือนายกุ่ย เหล่ากวาง อายุ 31 ปี บริเวณสถานีขนส่ง เตรียมเดินทางกลับประเทศ  ซึ่งตรงตามการให้การของเด็กรับรถในร้านสองคน โดยคนร้าย ยอมรับว่าโกรธแค้นที่ถูกผู้เสียชีวิตตำหนิว่าตัวเองทำอาหารไม่อร่อย จนทำให้ตัวเองถูกไล่ออกจากร้านอาหารหลายร้านในย่านดังกล่าว ก็เลยทำให้โกรธแค้น และชอบลวนลามแฟน พอทราบว่า ผู้เสียชีวิต ชอบมากินอาหารที่ร้านนี้ประจำ ก็เลยเดินทางมาดักรอและก่อเหตุด้วยการชกระหว่างที่ผู้เสียชีวิตกำลังจะดับเครื่องผู้เสียชีวิตโมโหตอบโต้ จนตัวเองสู้แรงไม่ไหว ตัดสินใจใช้มีดแทงแล้วหลบหนี ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต ขณะที่ แนวทางการสืบสวนระบุว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อน เนื่องจากผู้เสียชีวิตชอบมารับประทานอาหารแถวเจริญราษฎร์ประจำ  จากการตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายน่าจะมาเคาะประตูหรือเรียกให้ผู้เสียชีวิตลงมาจากรถก่อนที่จะมีปากเสียงแล้วใช้มีดที่เตรียมมาแทงจนเสียชีวิต