*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

+++หลังจากเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องที่ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต สนามบินที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตั้งอยู่ชานนครโฮจิมินห์ ทางตอนใต้ของประเทศ ระหว่างเวลา 11.00 น. - 12.25 น. ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบเรดาร์หอบังคับการบิน มีเที่ยวบินของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์และสายการบินเจตสตาร์แปซิฟิกอย่างน้อย 33 เที่ยวบินไม่สามารถขึ้นบินและลงจอดได้ โดยต้องไปลงจอดที่สนามบินอื่นหรือบินย้อนกลับไปยังสนามบินต้นทางปัจจุบัน สนามบินแห่งนี้ให้บริการราว 300 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งถือว่าเกินกว่าจำนวนที่สนามบินจะรับได้ รัฐสภาเวียดนาม กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ในพื้นที่ใกล้นครโฮจิมินห์ ทั้งนี้ แม้ระดับความปลอดภัยด้านการบินของเวียดนามจะจัดอยู่ในระดับดี แต่เหตุการณ์ที่เครื่องบินเกือบจะเฉี่ยวชนหลายครั้งในช่วงหลายเดือน ก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้โดยสารเช่นกัน

+++ไปที่จีน  เกิดอุบัติเหตุรถชนกันจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ศพและบาดเจ็บกว่า 20 คน คาดเป็นเพราะทัศนวิสัยเลวร้าย รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้และรถบรรทุก มากกว่า 70 คัน มีส่วนเกี่ยวข้องในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตอนประมาณ 8.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น(ตรงกับเมืองไทย 7.00น.) บนทางด่วนเหอเฝย-หวยหนาน-ฟู่หยาง ผ่านมลฑลอานฮุย เชื่อกันว่าสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากทัศนวิสัยเลวร้าย ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ไกลสุดไม่เกิน 30 เมตร ซึ่งพอรถคันข้างหน้าชนกันก็เลยเบรคไม่ทัน 

+++ส่วนเหตุพนักงานพยาบาลโรงพยาบาล 281 เมืองเป่ยไต้เหอ ในมณฑลเหอเป่ย คลั่งแทงเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของโรงพยาบาล 1 ศพ และพยาบาลอีก 6 ศพ รวม 7ศพ ผู้ก่อเหตุมีประวัติความผิดปกติทางจิต ชื่อนายหลี่ เสี่ยวหลอง อายุ 27 ปี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเดียวกันกับเหยื่อ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้เรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่หอพักพนักงานหญิงของโรงพยาบาล 281 เมืองเป่ยไต้เหอ ซึ่งเป็นเหตุซ้ำรอยการใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในประเทศจีนอีกครั้ง ที่ก่อนหน้านี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากคนไข้ที่โกรธแค้นเป็นผู้ลงมือ เมื่อเดือนเมษายน ชายวัย 45 ปีคนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจกับการผ่าตัดทำหมันจึงใช้ของแหลมแทงแพทย์จนเสียชีวิตในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางตะวันออกของมณฑลเจียงซู

+++เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อตำรวจไนจีเรีย ยิงแก๊สน้ำตาภายในที่ทำการรัฐสภา พยายามขัดขวางส.ส.ฝ่ายค้าน ในนั้นรวมถึงประธานสภาผู้แทนราษฏรเข้าไปยังตัวอาคารเพื่อร่วมประชุมลงคะแนนญัตติสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรมีกำหนดลงมติในญัตติหนึ่งที่รัฐบาลยื่นคำร้องขอขยายกรอบเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ถูกพวกนักรบโบโกฮารามเล่นงานหนักหน่วงที่สุด แต่ฝ่ายค้านต่อต้านความเคลื่อนไหวดังกล่าว ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนศึกเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้ากำลังมาถึง ปฏิบัติการที่ก้าวร้าวของตำรวจดูเหมือนจะพุ่งเป้าไปที่นายเอมินู ทัมบูวัล ประธานสภาผู้แทนราษฏร ที่ก่อความโกรธแค้นแก่พรรคประชาชนประชาธิปไตย(พีดีพี) พรรครัฐบาล หลังแปรพักต์ไปฝักใฝ่ฝ่ายค้านเมื่อเดือนที่แล้ว

+++หนังสือพิมพ์ ลา เปรนซา แห่งฮอนดูรัส รายงานว่า น.ส.มาเรีย โฮเซ อัลวาราโด นางงามฮอนดูรัสวัย 19 ปี ที่มีข่าวว่าหายตัวไปพร้อมพี่สาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสียชีวิตเพราะถูกยิง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน นายเลอันโดร โอโซริโอ เปิดเผยว่า พบศพ น.ส.อัลวาราโด และ น.ส.โซเฟีย ตรินิแดด พี่สาววัย 23 ปี ถูกฝังไว้บริเวณริมแม่น้ำอะกัวกวล ในเมืองอาราดา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ  ต่อมา นายพลูทาร์โก รุยส์ แฟนของ พี่สาว รับสารภาพว่า เป็นผู้ยิง น.ส.ตรินิแดดเข้าที่ศีรษะ เนื่องจากความหึงหวงหลังจากที่เห็นแฟนสาวเต้นรำกับชายอื่นในงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดของตัวเองที่จัดขึ้นในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในเมืองซานตาบาร์บารา และยิงใส่หลังของ น.ส.อัลวาราโด 2 นัด ระหว่างที่นางงามฮอนดูรัสพยายาม หลบหนี  ตำรวจจับกุมนายรุยซ์ และนายอาดิส มัลโดนาโด เมเฮีย ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมสมคบคิดได้พร้อมกับยึดปืนสั้น โคลท์-45 กับรถยนต์อีก 2 คัน ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาผู้ต้องสงสัยเพิ่ม ที่เชื่อว่า พยายามช่วยปกปิดหลักฐาน ที่รวมถึงการทำความสะอาดและพ่นสีรถปิกอัพที่ใช้ในการก่อเหตุด้วย  ด้านผู้จัดการประกวดมิสเวิลด์ ที่จะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แสดงความเสียใจและประกาศไว้อาลัยในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่สองพี่น้อง และจะมีการจัดพิธีเป็นพิเศษโดยมีผู้เข้าประกวดมิสเวิลด์ทุกคนเข้าร่วมด้วย 

+++นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลยูเครนกับฝ่ายกบฏเริ่มใช้บังคับเมื่อวันที่ 5 กันยายน คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ระบุในรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 13 คนในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน รวม 8 สัปดาห์ นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผล มีคนเสียชีวิตแล้ว 957 ศพ มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงจากทั้งสองฝ่าย รายงานระบุว่า กฏหมายและกฏระเบียบต่างๆไม่สามารถใช้บังคับได้เลยในจังหวัดโดเนตสก์และลูฮานก์ ที่มั่นสำคัญของฝ่ายกบฏ

+++ศาลแขวงกวางจู ของเกาหลีใต้ มีคำพิพากษาโทษผู้ต้องหาในคดีเรือเซวอลอีกชุด เมื่อวันพฤหัสบดี โดยนายคิม ฮัน-ซิก ประธานบริษัทชองแฮจินมารีน จำกัด เจ้าของเรือ ได้รับโทษจำคุก 10 ปี และสั่งปรับฐานไม่สั่งห้ามการบรรทุกของที่ไม่เหมาะสมและบรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการอับปาง เป็นเงิน 2 ล้านวอน (ประมาณ 59,076 บาท) ส่วนพนักงานของบริษัทชองแฮจิน 4 คน ได้รับโทษจำคุก 3 - 6 ปี และพนักงานอีก 2 คน ให้รอลงอาญา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ 1 คนจากสมาคมการขนส่งทางเรือของเกาหลีใต้ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยของเรือเซวอล ได้รับโทษจำคุก 3 ปี จากการละเลยในหน้าที่ปล่อยให้เรือเซวอลออกจากท่า โดยที่ไม่มีการตรวจสอบการบรรทุกสินค้าที่เกินปริมาณ รวมถึงคนงาน 2 คนของบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำหน้าที่ขนสินค้าลงเรือก็ได้รับโทษจำคุก 2 ปีเช่นกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลเขตกวางจูตัดสินจำคุกกัปตันและลูกเรือที่รอดชีวิตเป็นเวลา 5 - 36 ปี ทั้งนี้ เรือเฟอร์รีเซวอลประสบเหตุอับปางลงเมื่อเดือน เม.ย.ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมปลายเสียชีวิตไปกว่า  300 คน โดยการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในทะเลได้ยุติลงเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังสามารถค้นหาเหยื่อได้ 295 ศพ ขณะที่อีก 9 รายยังคงสูญหาย

+++จากเหตุเพลิงไหม้ ที่โอโซนดิสโก คลับในเมืองเกซอน ย่านการค้าทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ก่อนเที่ยงคืนวันที่ 18 มี.ค. 2539 นับเป็นหนึ่งในสิบเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงที่ร้ายแรงที่สุดในโลก มีผู้เสียชีวิต 162 ศพ ศาลตัดสินจำคุกวิศวกร 7 คน เป็นเวลาสูงสุด 10 ปี โทษฐานปล่อยให้ดิสโกเธคนี้เปิดให้บริการโดยไม่ตรวจสอบมาตรการด้านความปลอดภัย ขณะที่เจ้าของและผู้จัดการการเงิน ถูกตัดสินจำคุก 6-10 ปี จำเลยทั้งหมดมีเวลา 15 วันที่จะยื่นอุทธรณ์ อย่างไรก็ เจ้าหน้าที่ศาลยอมรับว่า ทางการไม่ทราบว่าบุคคลทั้งหมดนี้อยู่ที่ไหน ด้านผู้รอดชีวิตและกลุ่มต่อต้านอาชญากรรมยินดีที่ศาลมีคำตัดสินดังกล่าวหลังจากรอคอยมานาน 18 ปี แต่ก็ตั้งคำถามด้วยความเจ็บปวดว่า เหตุใดกระบวนการยุติธรรมจึงกินเวลายาวนานเช่นนี้ และเกรงว่าจำเลยบางคนอาจหนีออกนอกประเทศไปแล้ว นอกจากนี้ผู้รอดชีวิตบางคนจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็เสียชีวิตไปแล้วโดยที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม สำหรับผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่เข้าไปเลี้ยงฉลองการปิดภาคเรียนและไม่สามารถหนีออกมาได้ในช่วงเกิดเหตุ เนื่องจากทางออกฉุกเฉินของสถานบันเทิงถูกปิดกั้นโดยอาคารอีกหลังหนึ่ง

+++ทางการเนเธอร์แลนด์ ออกแถลงการณ์ว่า ตรวจพบการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ที่ฟาร์ม 3 แห่งในเมืองเตอร์อาร์ ทางตะวันออกของกรุงเฮก แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใด เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบและคาดว่าจะทราบผลภายในวันนี้ การตรวจพบดังกล่าวส่งผลกระทบต่ออุตสากรรมการผลิตสัตว์ปีกของเนเธอร์แลนด์อีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่สั่งทำลายไก่ทั้งหมดในฟาร์มทั้ง 3 แห่งรวม 43,000 ตัว และสั่งห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั่วประเทศเป็นเวลา 72 ชั่วโมง นับตั้งแต่เวลา 14.00 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น (20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) รวมถึงยังสั่งตรวจสอบฟาร์ม 4 แห่งในรัศมี 10 กม. ของฟาร์มที่พบเชื้อด้วย การแพร่ระบาดของเชื้อครั้งแรกในครั้งนี้ของเนเธอร์แลนด์ เจ้าหน้าที่ระบุว่าเชื้อที่พบเป็นสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 8 เช่นเดียวกับที่พบในฟาร์มเป็ดที่อังกฤษ

+++ตัวเลขทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน ก็ช่วยผลักให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวานนี้(20พ.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย แต่ดาวโจนส์กับเอสแอลด์พี500 เดินหน้าทุบสถิติรอบใหม่ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 33.17 จุด  ปิดที่ 17,718.90 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.04 จุด ปิดที่ 2,052.76 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 26.16 จุด ปิดที่ 4,701.87 จุด 

+++ราคาน้ำมันปิดบวก หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯกลบข้อมูลที่น่าผิดหวังจากจีนและยูโรโซน สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ราคาทองคำ ปิดลบ 2 วันติด จากข่าวข้อเสนอประชามติห้ามธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ทำการระบายทองคำสำรองออกมาและบังคับให้ SNB ถือครองสินทรัพย์อย่างน้อยร้อยะ 20 ในรูปของทองคำ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,190.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์