ปลัดกระทรวงแรงงาน แนะคนรุ่นใหม่ปรับตัว รับเทคโนโลยีป้องกันการตกงาน

        การเสนอให้กระทรวงแรงงานหามาตรการป้องกันการถูกเลิกจ้าง หลังเทคโนโลยีมีบทบาทในการทำงานมากขึ้น นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน  กล่าวว่า กระทรวงมีคณะทำงานอยู่แล้ว พร้อมระบุว่าตอนนี้อัตราการว่างงานอยู่ที่ 350,000-400,000 คน เทียบเท่ากับปีที่แล้ว หากปีหน้าเศรษฐกิจฟื้นตัวอัตราว่างงานคงต่ำลง โดย 3 เดือนแรกของปีหน้า มีตำแหน่งงานว่างรองรับอีกหลายหมื่นตำแหน่ง พร้อมแนะนำคนรุ่นใหม่ว่าควรปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีจะช่วยให้คนบางส่วนได้งานมากขึ้นและทางเดียวกันก็จะทำให้คนบางส่วนตกงาน

          ส่วนข้อเสนอของแรงงานที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ ซึ่งวันนี้ มีการหารือร่วมกับ นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทยและประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน  นายมนัส เปิดเผยว่า ทางกลุ่มยื่นข้อเสนอ 2 เรื่อง คือ เสนอให้แรงงานที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เลิกทำงานในทุกกรณีต้องได้รับเงินชดเชยระหว่างว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 75 ของเงินเดือน โดยกำหนดเพดานเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท และต้องได้รับเงินเป็นเวลา 6 เดือน พร้อมเสนอให้รัฐหาเงินเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายวงเงินช่วยเหลือลูกจ้างในกรณีที่นายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยหรือค่าตอบแทนต่างๆตามกฎหมาย เช่น ลูกจ้างที่ทำงานครบ 1 ปีแต่ไม่ครบ 3 ปี ต้องได้รับเงินช่วยเหลือ 90 วัน  

          ส่วนการปรับค่าจ้างขั้นต่ำที่มีมติปรับเพิ่มในวันนี้ นายมนัสยอมรับมติ แต่ไม่ค่อยพอใจ เพราะต้องการได้มากกว่า 400 บาทต่อวันตามที่พรรคการเมืองหาเสียงไว้

          ด้านปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ให้เวลาเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม 1 เดือนไปพิจารณาข้อเสนอเพิ่มเงินชดเชยให้แรงงานในระบบประกันสังคมแล้วจะนำกลับมาคุยอีกครั้ง ส่วนการขยายการช่วยเหลือลูกจ้างในกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างถ้าทำจริงก็กลัวว่าระยะยาวกองทุนอาจมีปัญหา โดยปัจจุบันกองทุนมีเงินอยู่ 221 ล้านบาท และใน 5 ปีนี้มั่นใจว่ากองทุนยังมั่นคงอยู่