ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2562

05 ธันวาคม 2562, 06:08น.


ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2562



คนร้ายยิงรถกลุ่มเอ็นจีโอ ส่งผล นายแพทย์ชาวญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลแมกไซไซ เสียชีวิต



          เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นในอัฟกานิสถาน เปิดเผยว่า  เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบฝ่าย กราดยิงใส่รถยนต์ของกลุ่มNGO ที่เมืองนาการ์ฮาร์ ทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถานทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย เป็นชาวอัฟกานิสถาน 5 ราย สำหรับรายที่ 6 เป็นชาวต่างชาติได้บาดเจ็บสาหัส ก่อนที่เสียชีวิตในเวลาต่อมา



          สำหรับชาวต่างชาติที่เสียชีวิตนั้นคือ นายแพทย์เท็ตสึ นากามูระ  หัวหน้าเอ็นจีโอ กลุ่ม”พีซ เจแปน  เมดิคอล เซอร์วิส “ ที่เดินทางพร้อมคณะเพื่อดูโครงการแต่ระหว่างทางรถยนต์ถูกโจมตีก่อน  โดยนายแพทย์นากามูระ  เข้ามาช่วยเหลืออัฟกานิสถาน ในการก่อสร้างระบบชลประทาน และการเกษตร จนได้รับรางวัลรามอน แมกไซไซ เมื่อปี 2546



จีน แถลงไม่ได้กำหนดกรอบเวลาลงนามกับสหรัฐฯ ย้ำปกป้องผลประโยชน์ตามกฎหมาย



          หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เตือนว่า การแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศจีน อาจจะยืดเยื้อไปจนถึงหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า เอเอฟพี รายงานอ้างนางฮั่ว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนว่า รัฐบาลจีนมีความเห็นที่สอดคล้องกับประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ระบุว่า ไม่มีการตั้งระยะเวลาสำหรับการลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกันทั้งสองประเทศมีปัญหาความตึงเครียดครั้งใหม่ในเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศจีน

          โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน  ระบุว่า ปัจจุบันประเทศจีนเผชิญกระแสกดดันต่างๆจากสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวคิดตัดสินใจกระทำการต่างๆตามใจ การปกป้องตลาดภายในประเทศและไม่เคารพกติกาทางการค้า ขณะเดียวกันจีน มีทางเลือกไม่มากนัก แต่ประเทศจีนจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ที่ชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมายของตัวเอง

          ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมายฉบับหนึ่งสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ล่าสุด สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติรับรองร่างกฎหมายว่าด้วยสิทธิ์ของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกุร์ในมณฑลซินเจียง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ซึ่งจะมีผลคือการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจีนที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามชาวอุยกูร์



ผู้นำอิหร่าน สั่งให้ปล่อยผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธ หลังถูกจับคัดค้านการขึ้นราคาน้ำมัน



          รอยเตอร์  รายงานว่า ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่าน สั่งการให้สำนักงานตำรวจของอิหร่านปล่อยตัวประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธที่ถูกจับกุมระหว่างการประท้วงคัดค้านการขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง หลังเกิดเหตุปะทะอย่างรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ มีคนเสียชีวิตหลายศพและมีคนถูกจับกุมราว 7,000 คน นายรูฮานี ระบุว่า การปล่อยตัวผู้ประท้วงแสดงให้เห็นถึงความเมตตาปรานีตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันนี้ 15 พฤศจิกายน คนวัยทำงานในเมืองต่างๆกว่า 100 เมืองทั่วประเทศ รวมตัวประท้วง คัดค้านการขึ้นราคาเชื้อเพลิงในอัตราร้อยละ 300 พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้นำอิหร่าน รวมถึงอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ลาออก



          ด้านรัฐบาลอิหร่าน กล่าวหา ผู้ประท้วงโดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างแดน และเชื่อมโยงกับประเทศคู่ปรปักษ์ของอิหร่าน โดยเฉพาะสหรัฐฯ อิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย เพื่อปลุกระดม ทำให้เกิดเหตุไม่สงบขึ้น

          อิหร่านไม่ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ประท้วงที่เสียชีวิตจากการใช้กำลังของตำรวจเพื่อสลายการประท้วง แต่เมื่อวันจันทร์องค์การนิรโทษกรรมสากลของอังกฤษ ระบุว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิต 208 ศพ เป็นเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุปฏิวัติอิหร่านเมื่อปี 2522



ฮ่องกงทุ่มงบประมาณ 4 พันล้านฮ่องกง ฟื้นเศรษฐกิจ



          รัฐบาลฮ่องกงทุ่มงบประมาณ 4,000 ล้านฮ่องกง(ราว 15,000ล้านบาท) เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงที่ยืดเยื้อมานาน 6 เดือน ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ(4ธ.ค.) กองทุนการเงินระหว่างประเทศเรียกร้องรัฐบาลฮ่องกง ให้ออกมาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อจัดการกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และจัดการกับประเด็นปัญหาเชิงโครงสร้างระยะสั้น เช่นที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอและความไม่เท่าเทียมทางรายได้ ภาคธุรกิจของฮ่องกง หดตัวในอัตรารุนแรงที่สุดในรอบ 21 ปีในเดือนพฤศจิกายน ถูกฉุดจากการประท้วง สถานการณ์ความไม่สงบทำให้นักท่องเที่ยวลดลงกระทบต่อการใช้จ่าย ในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว มีการเปิดเผยว่าภาคค้าปลีกของเมืองลดลงหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยประสบมา ด้วยยอดขายในเดือนตุลาคม ลดลงถึง ร้อยละ24.3 เหลือราวๆ 30,100 ล้านเหรียญฮ่องกง(1.1แสนล้านบาท)



ราคาน้ำมันตลาดโลก ปรับตัวแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์



          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล   หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ(4ธ.ค.)  พบคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 พฤศจิกายน ลดลง 4.9 ล้านบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมา 5 สัปดาห์ติด ขณะที่ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลต์ส คาดหมายว่าน่าจะลดลง 700,000 บาร์เรลเท่านั้น นอกจากนี้แล้วข้อมูลของอีไอเอยังพบด้วยว่าคลังเบนซินสำรอง เพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรลและสต๊อกน้ำมันกลั่น เพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล



            ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(4ธ.ค.) พุ่งแรง นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่าการเจรจากับจีน ในข้อตกลงการค้าชั่วคราวกำลังเป็นไปด้วยดี ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 146.97 จุด ปิดที่ 27,649.78 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 19.56 จุด ปิดที่ 3,112.76 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 46.03 จุด ปิดที่ 8,566.67 จุด ส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,480.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์



ผู้นำอังกฤษ ปฏิเสธข่าวการเลี่ยงถ่ายรูปและแถลงข่าวร่วมกับปธน.ทรัมป์



           เอเอฟพี รายงานว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าเขาเลี่ยงการถ่ายรูปคู่และการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระหว่างการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต) โดยเกรงว่าการถ่ายรูปคู่กับนายทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้นำที่ถูกวิจารณ์ในแง่ลบจากสาธารณชนในอังกฤษ อาจจะกระทบการเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ขณะเดียวกัน มีคลิปข่าวที่แสดงให้เห็นว่าผู้นำคนอื่นๆของนาโต พูดจาล้อเลียนผู้นำสหรัฐฯ ด้วย

           เมื่อวานนี้ ก่อนการประชุมนาโต นายจอห์นสัน ได้พบกับนายทรัมป์ เป็นการส่วนตัว ไม่เปิดโอกาสให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพ ตามปกติผู้นำทั้งสองคนจะแถลงข่าวร่วมกันหลังพบกัน นอกจากนี้ นายจอห์นสัน ไม่ได้ทักทายนายทรัมป์และนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยา ต่อหน้าสาธารณะบริเวณบ้านพักประจำตำแหน่งที่ถนนดาวนิ่ง ในกรุงลอนดอน ก่อนพิธีต้อนรับผู้นำคนอื่นๆที่มาร่วมประชุม เนื่องจาก ทีมงานของนายจอห์นสัน เกรงว่า นายทรัมป์อาจจะพูดจาในลักษณะที่อาจจะกระทบต่อการเลือกตั้งในอังกฤษ จากผลสำรวจของโพลส่วนใหญ่ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนายจอห์นสัน มีคะแนนนำคู่แข่ง คือ พรรคแรงงานของนายเจเรมี คอร์บิน

ข่าวทั้งหมด

X