*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.
+++ที่ประชุมเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ภาษีการรับมรดกโดยมีสาระสำคัญกำหนดให้ผู้ที่ได้รับมรดกจากเจ้าของมรดกที่เสียชีวิตหลังจากวันที่ร่างกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้เมื่อได้รับมรดกทุกชนิด ทั้งบ้าน ที่ดิน และสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท ต้องเสียภาษีดังกล่าวในอัตรา ร้อยละ10 โดยขั้นตอนจากนี้จะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)พิจารณาเห็นชอบ ก่อนประกาศลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ใน 90 วันคาดเร็วที่สุดภายในเดือนมิ.ย.58 มีผลบังคับใช้ได้ ยังมีข้อยกเว้นไม่เก็บจากคู่สมรสที่ ได้รับมรดกเพราะถือว่าก่อร่างสร้างตัวกันมาข ณะเดียวกันยังยกเว้นการเก็บภาษีดังกล่าวกับผู้ได้รับมรดกที่เจ้ามรดกแสดงเจตนาให้ใช้มรดกนั้นเพื่อประโยชน์ในกิจการศาสนา กิจการศึกษาหรือกิจการสาธารณประโยชน์ หรือให้กับหน่วยงานของรัฐและนิติบุคคลเพื่อกิจการศาสนากิจการศึกษา หรือกิจการสาธารณประโยชน์ แต่จะเก็บจากทรัพย์ทุกชนิดที่ผู้ได้รับมรดกจากผู้ที่ตายหลังจากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้วหากพบว่ามีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท
+++"ที่ประชุมยังเห็นชอบให้แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อจัดเก็บภาษีเงินได้จากการรับให้ เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีมรดกโดยผู้มีมรดกจะโอนทรัพย์สินให้กับผู้รับก่อนเสียชีวิตซึ่งกฎหมาย ดังกล่าวจะกำหนดให้พ่อแม่ผู้ที่มีมรดกที่มีอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านและที่ดินหากโอนให้ผู้รับเกิน 10 ล้านบาทต่อคนต่อปี ต้องเสียภาษี 5% ขณะที่บุพการีที่มีสังหาริมทรัพย์ทั้งเงิน และหุ้น หากโอนให้ผู้รับเกิน 10 ล้านบาทต่อคนต่อปีต้องเสียภาษี 5% ส่วนบุคคลภายนอกที่ให้โดยธรรมจรรยา ประเพณี เช่น สินสอดงานแต่ง มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อคนต่อปี ต้องเสียภาษี 5% ส่วนผู้ที่ให้ทรัพย์สินที่เป็นการกุศลก็ได้รับการยกเว้น"
+++การรักษาความปลอดภัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคณะ จะลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น และจ.กาฬสินธุ์ เพื่อตรวจปัญหา ภัยแล้ง วันที่ 19 พฤศจิกายน ว่า นายกฯไปได้ ทุกพื้นที่เพราะไม่มีความขัดแย้งกับใคร ครั้งนี้จะไปดูปัญหาภัยแล้ง พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 การตรวจสอบเรื่องความเคลื่อนไหวกลุ่มมวลชนต่างๆ นั้น พล.ท.ธวัชกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ พี่น้องประชาชนเข้าใจดีว่า ภาวะปัจจุบัน เป็นอย่างไร ทุกคนก็ให้ความร่วมมือดี ทุกส่วนราชการก็ให้ความร่วมมืออย่างดี สำหรับ จ.ขอนแก่น ถือเป็นที่มั่นสำคัญของคนเสื้อแดง หรือกลุ่ม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และที่ผ่านมามีการจับกุมกลุ่มหัวรุนแรง ที่สะสมอาวุธสงครามจำนวนมากเพื่อเตรียมก่อเหตุวุ่นวายในบ้านเมืองในช่วงเปลี่ยน ถ่ายอำนาจ โชคดีที่ทหารบุกทลายและจับกุม ผู้เตรียมก่อเหตุร้ายไว้ได้เสียก่อน จนเป็นที่มาของ "ขอนแก่นโมเดล"
+++คำถามที่ไม่คำตอบว่า ท่อก๊าซปตทในทะเลเป็นของใคร นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า สตง.ได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้ตีความคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเกี่ยวกับการแบ่งแยกทรัพย์สินของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย หรือบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ให้กับกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 และ สตง.เข้าไปชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกับกฤษฎีกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย สตง.ได้ยืนยันความเห็นไปว่า ท่อส่งก๊าซธรรมชาติในทะเลควรจะมีการโอนคืนให้กระทรวงการคลังด้วย เนื่องจากมองว่าท่อส่งก๊าซ และสิ่งปลูกสร้างในทะเล ไม่ใช่สิ่งที่เอกชนสามารถทำได้ ต้องอาศัยอำนาจรัฐเพื่ออนุมัติให้สิทธิ หรือสัมปทานถึงจะวางท่อได้ "
++++จากผลการตรวจสอบของ สตง.พบว่า ทรัพย์สินที่ ปตท.แบ่งแยกให้กระทรวงการคลัง มูลค่ารวม 16,176 ล้านบาท เป็นแนวท่อเฉพาะที่อยู่บนบกเท่านั้น ยังมีแนวท่อก๊าซทั้งบนบกและในทะเลที่ ปตท.ยังไม่ได้แบ่งแยกและส่งมอบให้กระทรวงการคลังอีก รวมมูลค่า 32,613 ล้านบาท จึงถือไม่ได้ว่า ปตท.ได้ดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินให้ถูกต้องตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด"
++++สตง.จึงได้แจ้งผลการตรวจสอบไปให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสำนักงานศาลปกครองสูงสุด และบริษัท ปตท.เพื่อให้ดำเนินการบังคับคดีในส่วนที่ยังไม่ได้แบ่งแยกทรัพย์สิน แต่บริษัท ปตท.อ้างความเห็นศาลปกครองสูงสุดโต้แย้งกับความเห็นของสตง. ระบุว่าศาลปกครองสูงสุดและกระทรวงการคลังได้ยืนยันว่า การแบ่งแยกและโอนทรัพย์สินของ ปตท.ให้กระทรวงคลังเสร็จสิ้นและครบถ้วนตามคำพิพากษาแล้ว
+++ทุจริตจำนำข้าวนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานร่วมฝ่าย ป.ป.ช. พิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าคณะทำงานฝ่ายอัยการสูงสุด (อสส.) ส่งหนังสือให้ ป.ป.ช. ยืนยันว่าคดีดังกล่าวมีเฉพาะในส่วนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีเรื่องทุจริต จึงจะฟ้องคดีนั้น ว่า ยังไม่ได้รับหนังสือจากฝ่าย อสส. ต้องขอตรวจสอบก่อน อย่างไรก็ดีคณะทำงาน ร่วมฯ เคยคุยกันว่า ในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น ป.ป.ช. วินิจฉัยแล้วว่าอยู่ในส่วนของการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นในส่วนนี้ฝ่าย อสส. คงต้องการให้ ป.ป.ช. ยืนยันอย่างชัดเจนว่า แค่เรื่องการละเว้นปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น หากให้ อสส. ไปตัดเอง มันก็จะไม่ดี แต่ในที่ประชุมอย่างเป็นทางการ ยังไม่ได้หารือกันเรื่องนี้ คาดว่าจะมีการประชุมนัดต่อไปราวต้นเดือน ธ.ค.นี้
++++ส่วนคดีอาญากับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในฐานะกรรมการ บริษัทไร่ส้ม พร้อมพวก กรณีไม่ชำระเงินค่าโฆษณาเกินเวลาให้กับบริษัท อสมท จำกัด มูลค่ากว่า 138 ล้านบาท โดยเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา และได้งคณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช. ได้แจ้งเรื่องให้กับที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบแล้ว โดยเท่าที่ทราบคณะทำงานทั้งสองฝ่ายจะประชุมร่วมกันหาข้อยุติครั้งสุดท้ายในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ส่วนวันที่ 28 พ.ย.นี้ ทางสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง จะดำเนินการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิก สนช. กรณีเข้ารับตำแหน่งจำนวน 28 ราย เมื่อวันที่ 25 ก.ย.
+++การขโมยชิ้นส่วนมนุษย์ 2 ชายชาวสหรัฐ คือ นายไรอันเอ็ดเวิร์ด แมคเฟอร์สัน อายุ 31 ปี ผู้กำกับภาพยนตร์แนวสารคดีสะท้อนชีวิตของคนจรจัดและนายแดเนียล เจมอน เทนเนอร์ ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับ นายไรอัน และนายแดเนียล แล้ว ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ หรือรับของโจร และข้อหาพยายามยื่นใบขนสินค้าส่งออกโดยสำแดงบันทึกเรื่องราวอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ. ศุลกากร หลังจากนี้จะส่งหมายจับไปยังสถานีตำรวจ และด่าน ตม. ทั่วประเทศ เพื่อดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดี พร้อมเตรียมประสานทางการกัมพูชาขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
+++ด้าน ที่ สน.บางกอกน้อย พ.ต.ท. อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย เปิดเผยถึงแนวทางการสืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวน การในการลักขโมยชิ้นส่วนมนุษย์จากพิพิธ ภัณฑ์ รพ.ศิริราช ว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนลักชิ้นส่วนมนุษย์ออกจาก รพ.ศิริราช ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง คือ นายไรอันและนายแดเนียลร่วมมือกัน กับอีกทางพนัก งานของ รพ.ศิริราช เป็นคนขโมยเองแล้วนำมาขายต่อ ได้ทำหนังสือไปยัง รพ.ศิริราช แล้ว เพื่อขอนำกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ โดยคาดว่าน่าจะได้ภาพวงจรปิดทั้งหมด ใน ช่วงบ่ายของวันที่ 19 พ.ย. เมื่อได้มาก็จะทำการ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าใครเป็นคน ลงมือ
++++น.ส.บริดเจ็ต ปับปาส โฆษกหญิงสำนัก งานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) แถลงว่า เอฟบีไอกำลังจับตาและติดตามความคืบหน้าในกระบวนการสืบสวนของตำรวจไทยอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ทางหน่วยงานอยู่ระหว่างสืบ สวนเพิ่มเติมคู่ขนานไปด้วยว่า การกระทำของชายชาวอเมริกันทั้งสองคน เข้าข่ายละเมิด กฎหมายใดของสหรัฐบ้างหรือไม่
+++ย้อนกลับไปเมื่อปี 45 สำนักงานอัยการเขตซานดิเอโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เคยตั้งข้อหาในคดีความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ต่อนายไรอัน นายแดเนียล และพรรคพวกอีก 2 คน ฐานจัดการต่อสู้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยรับสารภาพ ศาลลดโทษลงเหลือเป็นปรับเงินคนละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ(ราว 16,500 บาท ) และทำงานบริการสังคม แต่ต่อมาในปี 48 นายไรอัน และจำเลยร่วมอีกคนหนึ่งต้องรับโทษจำคุก 180 วัน ฐานละเลยการทำงานบริการสังคมในสถานสงเคราะห์คนไร้บ้านให้ครบกำหนดตามคำสั่งศาล ส่วนการประสานงานไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา แต่ยังไม่ได้ความคืบหน้ามากนัก ทั้งนี้หากมีความผิดจริงตามข้อหาของทางการไทย ทั้งคู่อาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี หรือปรับเป็นเงินคนละ 500,000 บาท (ราว 15,200 ดอลลาร์สหรัฐ) แต่ทาง การไทยต้องเดินเรื่องขอให้ทางการกัมพูชาส่งตัวทั้งคู่กลับมาดำเนินคดีในฐานะผู้ร้ายข้าม แดนด้วย
+++วงการเพลงลูกทุ่งต้องพบกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญอีกคนหนึ่ง เมื่อนายประจวบ จำปาทอง เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 74 ปี โดยโรคมะเร็งปอดญาติจะนำศพบำเพ็ญกุศลที่วัดเทพศิรินทราวาส ศาลา 3 จะมีพิธีสวดพระอภิธรรม 7 วันตั้งแต่ วันที่ 19-25 พฤศจิกายน และเก็บศพไว้ 100 วัน