ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562

27 พฤศจิกายน 2562, 08:56น.



เยาวราช เตรียมจัดงานรับเสด็จฯในหลวงรัชกาลที่ 10



          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จฯมาทรงเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์ และทรงเยี่ยมราษฎรไทยเชื้อสายจีน ในวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 17.00 น. ที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ถนนเยาวราช พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แนะนำให้ประชาชนมาร่วมรับเสด็จฯใช้ขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายสีน้ำเงิน ที่สถานีวัดมังกร



          นางวิภารัตน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.รับผิดชอบทำความสะอาด ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ โดยติดโคมไฟเพิ่มแสงสว่างในช่วงเย็น มีการติดธงสัญลักษณ์ และผ้าสีเหลืองและ สีม่วง ทั้งยังจัดแต่งดอกไม้ต่างๆ โดยในวันนั้นจะจัดรถสุขาอำนวยความสะดวกประชาชน 17 คัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศกิจ 182 คน แพทย์ พยาบาลอาสาเดินเท้า คอยดูแลประชาชน ที่คอยมาเฝ้าฯรับเสด็จ ทั้งถนนเยาวราช และเจริญกรุง



          นายวสันต์ บุญหมื่นไวย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ กล่าวว่า มีจิตอาสามาร่วมทำความสะอาดพื้นที่ราว 300 คน ทำความสะอาดถนน ยกท่อระบายน้ำ โดยวันที่ 29 พฤศจิกายน เวลา 24.00 น.จะมีบิ๊กคลีนนิ่งใหญ่ นำรถน้ำแรงดันสูงมาฉีดทำความสะอาด



         นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานกรรมการจัดงาน กล่าวว่า มีการจัดกิจกรรม 4 ส่วน ได้แก่ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจบูรพกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ให้ชาวจีนได้พึ่งพระบารมี เล่าเรื่องราวผ่านการฉายภาพเสมือนจริงบนจอแอลอีดี ในรูปแบบอุโมงค์ ตั้งแต่บริเวณวงเวียนโอเดียน จะเปิดให้เข้าชมในช่วงเย็นวันที่ 6 ธันวาคม ภายหลังเสด็จฯกลับ และให้ชมได้ในวันที่ 7-8 ธันวาคม เวลา 10.00-22.00 น. การจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจในหลวง รัชกาลที่ 10 โดยจะจัดแสดงนิทรรศการ ตามจุดต่างๆ บนถนนเยาวราช  การแสดงขบวนพาเหรดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน และเยาวราชสตรีทฟู้ดส์ นำร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อบนถนนเยาวราชและจากทั่วประเทศ 200 ร้าน มาจัดบริการประชาชนฟรี 150,000 ชุด หลังเสร็จสิ้นพิธีการ จัดยาวตลอดถนนเยาวราช ตั้งแต่แยกเฉลิมบุรี ถึงแยกราชวงศ์ โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางช่องเอ็นบีที



คณะกรรมการมรดกโลก ขึ้นทะเบียน‘เมืองโบราณศรีเทพ-กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง-ปราสาทเมืองต่ำ-ปราสาทปลายบัด



        ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้รับรายงานที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 43 มีมติรับรองแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ขึ้นทะเบียนในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) จำนวน 2 แหล่ง ได้แก่ เมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และกลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด จ.บุรีรัมย์ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมมรดกโลก มีมติให้ส่งกลับเอกสารที่ไทยเสนอพื้นที่ป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก โดยให้ไทยแก้ไขในข้อที่พูดถึงเขตแดนเชื่อมต่อกันระหว่างไทยและเมียนมา รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ยืนยันว่าในหน่วยงานไทยได้ดำเนินการแก้ไขคำเรียกร้องของคณะกรรมการมรดกโลกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดที่อยู่อาศัยให้กลุ่มกะเหรี่ยงและพัฒนาคุณภาพชีวิตทางสาธารณสุข พร้อมจัดทำข้อตกลงประชาคมร่วมกันว่าถึงแม้จะได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แต่จะไม่มีการย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ จากนี้ทางการไทยจะรวบรวมเรื่องทั้งหมดและส่งกลับไปที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกอีกครั้ง



โครงการ ‘ลดโลกเลอะ รักษ์ปันสุข’เปลี่ยนขยะให้เป็นงานศิลปะ



          การจัดโครงการ "ลดโลกเลอะ รักษ์ปันสุข" การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)และเทศบาลเมืองพัทยา ร่วมมือกันจัดขึ้น สะท้อนปัญหาขยะล้นโลก กระตุ้นจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าททท.เปิดเผยว่า ปัญหาขยะล้นเมืองนับเป็นปัญหาสำคัญ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลกที่กำลังประสบปัญหาเรื่องการจัดการขยะ โดยในปีที่ผ่านมาพบว่ามีปริมาณขยะทางทะเลและขยะมูลฝอย จำนวน 27.8 ล้านตัน แบ่งเป็นขยะพลาสติกปริมาณ 2 ล้านตัน และมีการนำมารีไซเคิลเพียงแค่ 500,000 ตัน หรือประมาณร้อยละ 25 เท่านั้น ทำให้ขยะที่เหลือมีการกำจัดอย่างไม่ถูกวิธี ททท. กำหนดเป้าหมายลดการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ลดลงร้อยละ 50 ภายในปี 2563  และได้ร่วมกับเทศบาลเมืองพัทยา รวมพลังลดใช้พลาสติกและหมุนเวียนใช้ให้เกิดประโยชน์โดย ด้วยการนำขวดพลาสติก PET สร้างสรรค์งานประติมากรรมรูป “เต่ามะเฟืองแม่ลูก” สัตว์สงวนที่ได้รับผลกระทบจากขยะพลาสติก ขนาด 8x8 เมตร บริเวณริมชายหาดจอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 - มิถุนายน 2563 เพื่อเป็นสัญลักษณ์รณรงค์การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะจัดงานเปิดตัวประติมากรรมอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ธันวาคมนี้



เจ้าของรถมาสด้า ร้องสคบ.ช่วยเหลือ ยังไม่ได้รถคืน



          การติดตามเรื่องการชดเชยรถคันใหม่และการติดตามหารถของ น.ส.นันทวัน ภูพาดแร่ หลังจากนำรถมาสด้า 2 ไปเช็คระบบไฟและรถหายจากศูนย์มาสด้า ซิตี้ สาขาหัวหมาก และยังไม่สามารถตกลงกับศูนย์มาสด้าได้ในเรื่องการชดเชย ในวันนี้ น.ส. นันทวัน จะไปยื่นเรื่องที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางฝ่ายมาสด้าและตัวแทนบริษัทไฟแนนซ์ SCB ในฐานะเจ้าของรถ หารือกัน และยังไม่มีความคืบหน้า น.ส.นันทวัน เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ต้องการเคลียร์เรื่องรถคันเก่าให้เรียบร้อยและไม่ต้องการรถใหม่แล้ว และให้เวลาทางศูนย์ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน



รอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ คลี่คลายคดีฆ่าหั่นศพ



          การคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปี พนักงานบริษัทเกี่ยวกับไฟแนนซ์รถยนต์ ถูกฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วนยัดตู้เย็นภายในบ้านเลขที่  17 ซอยท่าข้าม 28 แยก 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และ นายศิระ สมเดช อายุ 20 ปี บุตรชาย นักศึกษาชั้นปี 2 คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง  โดยหลังเกิดเหตุใช้ปืนขนาด .38 ลั่นไกใส่ขมับตัวเองเสียชีวิต พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าข้าม กล่าวว่า หลักฐานสำคัญที่จะสามารถยืนยันได้เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว โดยเฉพาะข้อสงสัย หรือเงื่อนงำต่างๆ ของคดี โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือความเชื่อมโยงต่างๆ เป็นสำคัญ



‘ลูอิส’เป็นหนึ่งในโคอาลามากกว่า 350 ตัวที่ตายจากไฟป่า



          โรงพยาบาลสัตว์ พอร์ต แมคควารี โคอา ในออสเตรเลีย ทำการุณฆาตโคอาลาลูอิสแล้ว เนื่องจากบาดแผลมีความรุนแรงเกินกว่าที่จะรักษาได้เรื่องราวของโคอาลาลูอิสได้รับความสนใจไปทั่วโลก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน เมื่อนางโทนี โดเฮอร์ตี ขับรถผ่านพื้นที่ที่กำลังมีไฟป่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์ แล้วพบโคอาลาตัวหนึ่งเดินข้ามถนนเพื่อหนีจากไฟป่า เธอจึงถอดเสื้อและช่วยเหลือโคอาลาไปส่งที่โรงพยาบาลสัตว์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกของประเทศ และมีการตั้งชื่อให้โคอาลาตัวนี้ว่าลูอิส แพทย์ระบุว่า ลูอิสมีอายุประมาณ 14 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัสมีแผลไฟไหม้ที่มือและเท้าทั้ง 2 ข้าง ที่จมูก และร่างกาย ซึ่งทางโรงพยาบาลระบุว่า ลูอิสมีอาการมีอาการดีขึ้นและกินใบไม้ได้ แต่เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ทางโรงพยาบาลเปิดเผยว่า ได้ทำการุณยฆาตลูอิสแล้ว เนื่องจากบาดแผลของลูอิสไม่ดีขึ้น



          การระดมทุนช่วยเหลือโคอาลาที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟป่าสามารถรวบรวมได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า ลูอิสเป็นหนึ่งในโคอาลามากกว่า 350 ตัวที่ล้มตายเนื่องจากไฟป่า ขณะที่ออสเตรเลียมีโคอาลาจำนวนประมาณ 5 หมื่น-1 แสนตัว นอกจากนี้เหตุไฟป่าที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 รายและมีอาคารบ้านเรือนอีกมากกว่า 500 หลังถูกไฟเผาทำลาย



CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร 




 

ข่าวทั้งหมด

X