หลังจากผู้ประท้วงชาวฮ่องกง เปลี่ยนวิธีประท้วงจากการชุมนุมตามท้องถนนมาเป็นการปักหลักประท้วงในมหาวิทยาลัยฮ่องกง โพลีเทคนิค(โพลียู)ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน ทำให้อาคารของมหาวิทยาลัยอยู่ในสภาพเสียหาย สกปรก และเสี่ยงเกิดปัญหาด้านสุขภาพแก่เจ้าหน้าที่ อาจารย์และนักศึกษา หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนา มอร์นิ่งโพสต์ ของฮ่องกง รายงานอ้างแถลงการณ์จากโพลียูว่า คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย นำโดย นายแลม ไท-ฟาย ประธานมหาวิทยาลัย นายจิน กวง เต็ง อธิการบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอื่นๆ ขอให้ตำรวจเปิดทางให้ผู้ประท้วงกลุ่มสุดท้ายราว 50 คน ให้ออกมาจากมหาวิทยาลัย โดยไม่จับกุม เพื่อยุติปฏิบัติการปิดล้อมมหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ในย่านฮุงฮอม คณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยขอให้ตำรวจใช้แนวทางสันติวิธีและมนุษยธรรมในการคลี่คลายปัญหา รวมถึงอนุญาตให้พวกเขาออกไปหลังการแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับตำรวจ
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้ประท้วง 2 คน ในมหาวิทยาลัยอ้างว่าคนที่ปักหลักประท้วงในมหาวิทยาลัยมีสภาพอารมณ์และจิตใจแย่ลง บางคนถึงขั้นไม่ยอมรับประทานอาหาร ในระยะแรกๆ มีผู้ประท้วงกว่า 1,000 คน เข้าไปปักหลักประท้วงในโพลียู แต่ต่อมาผู้ประท้วงส่วนใหญ่ถูกจับกุม ยอมมอบตัวกับตำรวจ หรือหลบหนี เนื่องจากหวั่นเกรงว่าตำรวจจะบุกเข้ามาจับกุมภายในมหาวิทยาลัย